เวลาฝนตกหนักสิ่งที่ตามมาแน่นอนก็คือน้ำท่วม ขับรถลุยน้ำท่วมเป็นเรื่องที่คนขับรถกลัวกันทุกคน แต่ต่อให้กลัวแค่ไหน เกิดเป็นคนไทยยังไงก็ต้องเจอ จะทำอย่างไรได้ นอกจากเรียนรู้วิธีขับรถลุยน้ำอย่างไรไม่ให้เครื่องดับ
วางแผนก่อนการเดินทางช่วงหน้าฝน
อย่างแรกคืออุปกรณ์ที่ควรมีติดไว้ในรถช่วงหน้าฝนนอกจากร่ม เสื้อฝน ไฟฉาย รองเท้าบูทแล้ว ก็คือน้ำยาไล่ความชื้น ยี่ห้อที่คนรุ่นเก่าคุ้นเคยกันมานานคือ Sonax กระป๋องเดียวเอาอยู่ หรือจะชอบยี่ห้ออื่นๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน ทั้งหมดนี้อาจต้องใช้ยามจำเป็น
อย่างที่สองคือวางแผนการเดินทางให้ดีในช่วงหน้าฝน ฟังดูอาจจะขำๆ เหมือนจะไม่สำคัญแต่เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเลือกเส้นทางถนนผิดชีวิตเปลี่ยนทันที เราต้องรู้ว่าเวลาฝนตกแล้วถนนเส้นไหนน้ำท่วมหนักเกิดความวิบัติ เราต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด มิเช่นนั้นเราอาจจะไปติดในบ่วงกรรมพารถไปจมน้ำโดยไม่จำเป็น
แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้….เราก็ต้องฝ่าฟันลุยน้ำต่อไปให้ได้! สู้โว้ย!
ขับรถลุยน้ำอย่างไรไม่ให้เครื่องดับ
จำไว้ง่ายๆ ว่า รถจะไม่ดับตราบใดที่น้ำไม่ท่วมเข้าท่อไอเสีย เพราะเมื่อน้ำเข้าท่อไอเสีย น้ำก็จะถูกดูดเข้าไปในระบบเครื่องยนต์ ทำให้ระบบจ่ายไฟชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องดับ ดังนั้นคิดภาพไว้ว่าท่อไอเสียของคุณอยู่สูงจากรถประมาณเท่าไร รถแต่ละรุ่นความสูงไม่เท่ากัน ขอให้เราเอารถของเราเป็นที่ตั้งไว้
โดยทั่วไปถ้าระดับน้ำไม่เกินครึ่งล้อรถ รถยนต์ยังไปได้สบายๆ แต่วิธีปลอดภัยก็คือขณะขับรถลุยน้ำให้ปิดแอร์ไว้ก่อน เพื่อป้องกันพัดลมเครื่องยนต์ดูดน้ำเข้าเครื่อง ขับไปเรื่อยๆ ใช้ความเร็วแบบสม่ำเสมอ รอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 2000 รอบกำลังดี เราอาจได้ยินเสียงน้ำซัดไปมาใต้ท้องรถยนต์ ก็อย่าได้ตกใจ ให้ขับช้าๆ ขับต่อไปเรื่อยๆ ฟังเสียงเครื่องยนต์ไว้ ตราบใดที่เครื่องยนต์ยังเดินเรียบปกติ เราก็ยังเบาใจได้ว่าเราน่าจะรอดปลอดภัยจากน้ำไปได้
แต่…ถ้าขับไปแล้วมองดูทางข้างหน้า เห็นปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนระดับจากครึ่งล้อเริ่มจะมิดล้อรถ หรือสูงจนถึงขอบประตูรถ โอกาสเครื่องดับมีสูงมาก ให้พยายามหาที่จอดข้างทางที่สูงเข้าไว้ก่อน อย่าได้ลุยขับไป ดับเครื่องแล้วรอน้ำลดลง
แล้วถ้าเครื่องดับจะทำอย่างไร?
แม้จะพยายามทำทุกอย่างแล้ว แต่สุดท้ายรถยนต์ก็เครื่องดับจนได้ สิ่งที่ต้องทำคือ อย่าสตาร์ตรถซ้ำทันที เพราะสตาร์ตไปก็ไม่ติด ยิ่งสตาร์ตรถท่ามกลางน้ำที่ท่วมรถ อาจทำให้ระบบเครื่องยนต์เสียหายได้ ถึงแม้น้ำท่วมสูงจนเครื่องดับ ขอให้ทำใจดีๆ ไว้ว่าน่าจะเกิดจาก หัวเทียน จานจ่าย ระบบจ่ายไฟต่างๆ ที่เกิดความชื้นจากน้ำที่เข้าไปในห้องเครื่องยนต์ ให้รอสักพักจนน้ำลดลงพอที่รถจะขับไปได้ เปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วนำน้ำยาไล่ความชื้นมาฉีดไล่ความชื้น ทิ้งไว้สัก 3-5 นาที แล้วสตาร์ตรถอีกครั้ง ส่วนใหญ่จะสตาร์ตติด
แต่…แต่..ถ้ายังสตาร์ตไม่ติด เงียบสงบไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ เลย ก็อาจจะเกิดเรื่องใหญ่กว่านั้น ต้องเรียกช่างมาช่วยแก้ไข หรือร้ายกว่านั้นอาจต้องเข้าศูนย์
ภาวนาอย่าให้เป็นเรื่องใหญ่ถึงเรื่องเครื่องยนต์มีปัญหา เพราะมันจะยุ่งยาก มันจะเหนื่อยใจ ที่สำคัญมันจะเสียเงินบานปลายมากๆ คิดแล้วกลุ้มแทนจริงๆ
เอาเป็นว่า ถ้าเห็นฝนตั้งเค้ามา..และมีความจำเป็นต้องขับรถออกไปนอกบ้าน ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมรับมือไว้ก่อน และอย่าลืมคิดไว้ว่าถ้าเกิดต้องลุยน้ำจริงๆ เราจะขับรถลุยน้ำอย่างไรไม่ให้เครื่องดับ
