รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเปิดตัวกันมาสักพักแล้วในประเทศไทย มีให้เลือกหลายยี่ห้อหลายสัญชาติ บางตัวเปิดตัวหวือหวามาก คนให้ความสนใจมากมาย แต่พอเปิดราคา คนซื้อก็ถอยกันไปเกินครึ่ง สาเหตุที่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เปรี้ยง เหตุราคายังไม่โดนใจ
คนซื้อคาใจ รถยนต์ไฟฟ้าทำไมราคาแพงจัง?
รถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งราคาถูกและราคาแพง มีหลายรุ่นที่รูปร่างหน้าตาโดนใจมากๆ สมรรถนะก็น่าสนใจ แต่พอเปิดราคามาแล้วผู้ซื้อก็ต่างล่าถอยไปตามๆ กัน โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคา 9 แสนอัพ หรือ ล้านอัพ เมื่อลองเปรียบเทียบราคากับความคุ้มค่าของรถแล้ว ผู้บริโภคก็ยังรู้สึกว่าไม่ควรจะราคาสูงถึงขนาดนั้น ทั้งนี้เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคารถยนต์พลังงานไฟฟ้าราคายังสูงอยู่นั้นมาจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตร ซึ่งจัดเก็บในอัตรา 8% แต่ถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ จะเก็บในอัตรา 2% (ช่วง 1 ม.ค. 2563 ถึง 31 ธ.ค.2565 จะจัดเก็บในอัตรา 0%) ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศจะเสียภาษีในอัตรา 80% ของราคาประเมิน ยกเว้นนำเข้าจากประเทศจีนจะไม่มีอัตราภาษี เนื่องจากเป็นข้อตกลงร่วมกันของอาเซียน-จีน
ลุ้นซื้อรถยนต์ไฟฟ้าปี 2565 ราคาอาจถูกลง
บรรดาเซียนรถกล่าวตรงกันว่า ให้รอดูเรื่องราคาในปี 2565 เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) กำหนดเป้าหมายผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย โดยระยะยาวตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้า 100% ภายในปี 2578 อีกทั้งยังมีข่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมอนุมัติมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะเริ่มใช้ในต้นปี 2565 ซึ่งแน่นอนหากมีการประกาศส่งเสริมอย่างจริงจัง มาตรการนั้นต้องมีเรื่องราคาขายรถไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าต้องถูกลงกว่านี้แน่ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อมากขึ้น ดังนั้นใครที่คิดจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ขอให้ลองกลั้นใจรอไว้ให้ถึงปีหน้า อาจได้ของดีราคาถูกลงกว่าเดิม
รถยนต์ไฟฟ้าดีไหม?
เป็นคำถามที่คนต้องการรู้ ตอบแบบไม่กลัวโดนต่อย รถยนต์พลังงานไฟฟ้า คือ “ดี” สำหรับอนาคตแน่นอน ยังไงเราก็ต้องเปลี่ยนไปขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพราะตอบโจทย์เรื่องทรัพยากรน้ำมันที่กำลังจะหมดจากโลก รวมทั้งลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ดีที่สุดแล้ว เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าลดการใช้น้ำมัน ลดทั้งชิ้นส่วนการผลิต ลดขั้นตอนการผลิต จึงเท่ากับช่วยลดการปล่อยมลพิษ ช่วยภาวะลดโลกร้อน ที่สำคัญลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้รถได้เกินครึ่ง
เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียรถยนต์ธรรมดา กับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
รถยนต์ธรรมดา มีเครื่องยนต์กลไกชิ้นส่วนนับร้อยชิ้น เมื่อเกิดการเสื่อมสภาพหรือเสีย เราก็ต้องเปลี่ยนก็ต้องซ่อมตามระยะเวลา
รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีการทำงานที่ต่างจากรถยนต์ธรรมดาอย่างสิ้นเชิง มีชิ้นส่วนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ค่าดูแลค่าใช้จ่ายจึงน้อยลงไปกว่าเดิมตามชิ้นส่วนในรถยนต์
รถยนต์ธรรมดา มีส่วนของน้ำมันเครื่อง ที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำ เมื่อเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งไม่ได้ขับเคลื่อนรถยนต์เหมือนเดิมอีกแล้ว เราจึงไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอีกต่อไป และด้วยกลไกระบบ regenerative braking (การเดินเครื่องมอเตอร์ให้เป็นเหมือนไดนาโมด้วยโหลดหรืองานเพื่อให้รับความต้านในการหยุดเครื่อง) ซึ่งลดการทำงานหนักของระบบเบรก จึงช่วยยืดอายุการใช้น้ำมันเบรก และ ผ้าเบรก ให้นานขึ้นกว่าเดิมถึงเท่าตัว ทำให้ลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้อีกด้วย
ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า
การดูแลรักษารถยนต์พลังงานไฟฟ้าง่ายกว่ารถยนต์ธรรมดา เนื่องจากมีชิ้นส่วนเครื่องยนต์น้อยชิ้นกว่า แต่ชิ้นส่วนก็มีราคาแพงเช่นกัน โดยเฉพาะแบตเตอรี่ แบตเตอรี่บางรุ่นแพงมาก เห็นราคาแล้วอาจเป็นลม ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือให้เลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่รับประกันแบตเตอรี่นานที่สุด อย่างน้อยควร 5 ปี ถ้า 10 ปีได้ยิ่งดี
รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จไฟนานมาก เราคุ้นชินกับการเติมน้ำมันเต็มถังไม่เกิน 5 นาที แต่รถยนต์ไฟฟ้ากว่าจะชาร์จไฟเต็ม ใช้เวลานานเป็นชั่วโมง
สุดท้ายคือสถานีชาร์จไฟยังมีไม่มากนัก ทุกครั้งของการใช้งานต้องเตรียมชาร์จไฟให้เต็มไว้ดีที่สุด แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีสถานีชาร์จไฟมากขึ้นอย่างแน่นอน
รถยนต์ไฟฟ้าคือความเปลี่ยนแปลงการใช้รถยนต์ของพวกเราในอนาคตอันใกล้นี้ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ต่อให้เราไม่อยากเปลี่ยนแค่ไหน..แต่โลกจะผลักดันเปลี่ยนให้เราเองในที่สุด..