รถแคมป์ปิ้งกำลังเป็นที่นิยมสำหรับสายท่องเที่ยว หากอยากได้รถแคมป์ปิ้งสักคัน เราจะเลือกรถแคมป์ปิ้งอย่างไรดี? และนี่คือ 5 คุณสมบัติที่รถแคมป์ปิ้งควรมี
1. ความจุในการจัดเก็บ
ชาวแคมป์ปิ้งจะให้ความสำคัญข้อนี้เป็นอันดับแรก ยิ่งถ้านิยมเดินทางไกล ไปทีหลายวันหรือเป็นเดือน เราควรเลือกรถที่มีความจุมากไว้ก่อน ยิ่งรถมีความจุมากเท่าไรก็ยิ่งรองรับกิจกรรมแคมป์ปิ้งได้มากขึ้นเท่านั้น ทำให้ชีวิตการเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากกิจกรรมพื้นฐาน เช่น ทำกับข้าว กิน นอน นั่งเล่นในรถ ถ้ารถกว้างมากพออาจมีห้องน้ำในตัวได้ด้วย หรืออาจจะขยายขอบเขตกิจกรรม แบกอุปกรณ์ต่างๆ ใส่ในรถได้อีก เช่น จักรยาน สกี เรือ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้การแคมป์ปิ้งสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
2. ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
ถ้าเลือกได้ควรเลือกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะปกติถนนหนทางที่เราไปแคมป์ปิ้งอาจต้องผจญภัยขึ้นเขาลงห้วย รวมทั้งเจอสภาพถนนที่เราคาดไม่ถึง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น ช่วยให้รถของเรายึดเกาะถนนในสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยได้ดีขึ้น เช่น ฝนตกหนัก รถลุยโคลน ถนนขรุขระ รถติดหล่ม รถแคมป์ปิ้งที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะช่วยให้รถแคมป์ปิ้งที่มีน้ำหนักมากของเรา สามารถตะกายป่ายปีนผ่านหนทางทุรกันดารที่ไม่คาดคิดได้ดีกว่า ช่วยให้การเดินทางของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
3. ประหยัดน้ำมัน
ถ้าเลือกได้เราควรเลือกรถรุ่นที่ประหยัดน้ำมัน การขับรถทางไกลต้องจ่ายค่าน้ำมันมากตามระยะทางอยู่แล้ว ยิ่งเราต้องบรรทุกข้าวของใส่ในรถหนักมากขึ้น ก็จะยิ่งเปลืองน้ำมันมากยิ่งขึ้น การเดินทางท่องเที่ยวอาจจะต้องมีแวะนอกเส้นทาง มีหลงบ้าง มีเปลี่ยนเส้นทางบ้าง แวะเติมน้ำมันบ้าง ถ้าได้รถประหยัดน้ำมันไว้ก่อน ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเหมาะกับการเดินทางไกล
4.รองรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก
รถที่รองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถือเป็นรถสำหรับตั้งแคมป์ที่ดีที่สุด เลือกรถที่รับน้ำหนักได้มากไว้ก่อน เพราะรถแคมป์ปิ้งส่วนใหญ่จะต้องต่อเติมภายในรถ และบรรทุกข้าวของเพิ่มเติม ทำให้รถต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติ ดังนั้นควรคำนึงถึงข้อนี้ไว้ด้วย
5. ความสูงใต้ท้องรถจากพื้นถนน
รถยนต์ที่เหมาะกับการแคมป์ปิ้งควรมีใต้ท้องรถที่สูง ระยะห่างจากพื้นถนนอย่างน้อย 8.5 นิ้ว ซึ่งระยะดังกล่าวจะช่วยป้องกันความเสียหายต่อตัวรถขณะขับผ่านสิ่งกีดขวาง เช่น ก้อนหิน ลำธาร และร่องลึก การบุกตะลุยไปตามที่ต่างๆ จะทำให้ช่วงล่างรถปลอดภัยมากขึ้น
เลือกรถแคมป์ปิ้งอย่างไรดี? 5 คุณสมบัติที่รถแคมป์ปิ้งควรมี ถ้าหากพิจารณาจาก 5 ข้อนี้แล้ว จะเห็นได้ว่ารถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดี ก็น่าจะเป็นบรรดา รถบรรทุก รถปิ๊กอัพ รถเอสยูวี รถตู้ นักแคมป์ปิ้งส่วนใหญ่นิยมซื้อรถเหล่านี้ในตลาดรถยนต์มือสองซึ่งมีรถคุณภาพดีๆ ให้เลือกมากมาย แค่นำไปปรับปรุงให้เป็นรถแคมป์ปิ้งก็สามารถใช้งานได้ดี ซึ่งประหยัดเงินไปได้มากกว่าซื้อรถแคมป์ปิ้งจริงจัง ลองดูตัวอย่างสายแคมป์ปิ้งได้ใน Youtube แล้วจะพบว่าความฝันที่จะมีรถแคมป์ปิ้งสักคันไม่ได้ไกลเกินเอื้อม