ในอนาคตอันใกล้ รถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนที่รถยนต์ระบบเดิม มีคำถามข้อสงสัยมากมาย แต่ที่ฮิตๆ ที่เราไปรวบรวมมา และหาคำตอบ 5 คำถามคาใจเรื่องรถ EVมาฝากคุณ
1.ถ้าฝนตกน้ำท่วม แล้วขับรถยนต์ไฟฟ้าลุยน้ำ ไฟจะช็อตไหม แล้วรถจะดับไหม?
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายืนยันว่า “ไม่” เนื่องจากระบบสายไฟต่างๆ ในรถยนต์ไฟฟ้าจะใช้สายไฟที่มีความปลอดภัยสูง สามารถกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม สังเกตง่ายๆ เวลาล้างรถที่ต้องฉีดน้ำไปทั่วคัน รถยนต์พลังไฟฟ้าไม่เคยมีปัญหาเรื่องการดับ หรือการช็อต ยังคงสตาร์ตได้ปกติเหมือนรถธรรมดา ดังนั้นไม่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะต้องขับลุยน้ำ หรือต่อให้ตกไปในน้ำ ในบ่อ ในสระ อย่าได้กลัวว่าคนขับรถจะโดนไฟช็อตหรือไฟดูดตาย เพราะจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าจะตายน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น (ว้าย!)
2. แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าราคาแพงมาก แพงกว่ารถยนต์ธรรมดาเป็นร้อยเท่า การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไม่ประหยัดและไม่คุ้มค่าเลย!
แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแพงจริงๆ แหละ แต่…ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ เหมือนรถยนต์ระบบสันดาปทั่วไปที่เคยเปลี่ยนทุก 2 -3 ปี เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเธียมในรถยนต์ไฟฟ้าไม่เป็นเช่นนั้น! เพราะสามารถใช้งานได้นานมาก โดยทั่วไปจะเปลี่ยนเมื่อใช้รถยนต์ไปได้ประมาณ 200,000 – 500,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์ และการรับประกันของค่ายรถยนต์นั้นๆ ด้วยว่าจะกำหนดไว้ที่เท่าไร ดังนั้นพยายามเลือกที่รับประกันนานๆ เข้าไว้เพื่อความปลอดภัยของกระเป๋าสตางค์ท่าน
3.จริงหรือไม่เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน รถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดไฟลุกไหม้ง่ายกว่า หรือเป็นอันตรายได้มากกว่ารถยนต์ธรรมดา
ก่อนนำรถยนต์ไฟฟ้ามาจำหน่าย รถแต่ละยี่ห้อได้ผ่านการทดสอบการชนมาแล้วเช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไป และสิ่งสำคัญคือรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง และไม่มีน้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในอุบัติเหตรถชน รถยนต์ไฟฟ้ามีแค่แบตเตอรี่ที่เป็นขุมพลังไฟฟ้า ซึ่งมีฉนวนกันไว้อย่างแน่นหนา เมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรง การทำงานระบบไฟฟ้าจะถูกตัดทันที เพื่อไม่ให้เกิดประกายไฟหรือการลุกไหม้ สรุปได้ว่า ไม่ได้อันตรายกว่ารถธรรมดา และน่าจะอันตรายน้อยกว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
4. รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จแบตนานมาก ถ้าในเวลาเร่งรีบไม่มีเวลามากมายหลายชั่วโมงจะทำอย่างไร?
เป็นเรื่องจริงที่รถยนต์ไฟฟ้าต้องชาร์จไฟนาน โดยเฉพาะชาร์จไฟที่บ้านเนื่องจากกำลังวัตต์ของไฟบ้านคือการใช้งานทั่วไป การชาร์จไฟที่บ้าน 1 ชั่วโมง รถยนต์อาจวิ่งได้แค่หลักสิบกิโลเมตร แต่ถ้าชาร์จที่สถานีบริการชาร์จไฟ โดยเฉพาะการชาร์จไฟด่วนที่สถานีมาตรฐาน ส่วนใหญ่จะมีกระแสไฟตั้งแต่ 40 – 135 กิโลวัตต์ ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นกว่าหลายเท่า กำลังไฟวัตต์ที่มีมากกว่าไฟบ้าน ทำให้การชาร์จไฟ 1 ชั่วโมงอาจวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรขึ้นไป ดังนั้นในภาวะเร่งรีบคุณอาจลดเวลาการชาร์จไฟลงเหลือแค่ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงก็ขับไปถึงเป้าหมายได้อย่างสบายๆ แต่ก็นั่นแหละเราเคยชินกับการเติมน้ำมันเต็มถังไม่เกิน 5 นาที ยังไงก็ยังไม่ชินเนอะ
5. รถยนต์ไฟฟ้าขับขี่ยากกว่ารถยนต์ทั่วไปใช่ไหม?
รถยนต์ไฟฟ้าขับขี่เหมือนรถยนต์ทั่วไป มีเกียร์ออโต้ที่มีตัว P R D L เหมือนที่เราเคยใช้งานนั่นแหละ ขับเคลื่อนโดยเลื่อนคันเกียร์และกดเบรกตามปกติ สิ่งที่แตกต่างก็คือระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่มาจากระบบไฟฟ้าจะนุ่มนวลกว่าเดิม การเบรกจะเบาแรงกว่าเดิม รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ผลิตมาเพื่อเหมาะกับการใช้ในเมือง ส่วนเทคนิคการขึ้นเขา ลงห้วย ไต่ที่สูง อยากแอดเวนเจอร์บุกตะลุยไปทั่วไทย ขอให้สอบถามจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งบางรุ่นอาจมีข้อแนะนำพิเศษเพื่อการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด ควรถามให้แน่ใจก่อนซื้อไปใช้เพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน
นี่คือคำตอบ 5 คำถามคาใจเรื่องรถ EV บทสรุปนี้รวบรวมคำตอบจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ คำแนะนำก็คือท่านที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อที่ท่านสนใจ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อมาใช้อย่างจริงจัง
ขอบคุณภาพปก Freepik