เป็นข่าวมาโดยตลอดสำหรับนักขับรถที่ใช้ GPS หรือ Google Map เพื่อนำทางไปยังสถานที่ไม่รู้จัก ส่วนใหญ่ไปถึงได้ แต่ก็มีบางส่วนที่พาหลง พาอ้อม กว่าจะไปถึง และยังมีจำนวนไม่น้อยที่โชคร้ายระหว่างการเดินทางที่ใช้ GPS นำทางไปในเส้นทางที่ไม่เคยชิน เกิดอุบัติเหตุสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจึงต้องขอ เตือนนักเดินทางอย่าไว้ใจ GPS มากเกินไป พาหลงก็เยอะ พางงก็มาก ทางที่ดีควรดูเส้นทางคร่าวๆ ก่อนที่จะเดินทาง อย่ามาดูหน้างานระหว่างขับรถอย่างเดียว มิเช่นนั้นจะเครียดและก่อให้เกิดอันตรายได้!
สุดสลด GPS นำทาง คนขับพลาดจมน้ำ
ไม่นานมานี้เอง คงได้ยินข่าวถึงคนขับรถหญิงชาว กทม.ที่ขับรถเก๋งตกคูน้ำข้างทาง แม้เส้นทางนั้นจะเคยเดินทางมาแล้วก็ตาม แต่อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะได้ใช้ GPS นำทาง แต่โชคร้ายที่ระบบนำทางได้พาไปทางลัด ซึ่งทางแคบและมีทางโค้งมาก ทำให้ผู้ขับไม่เคยชินเส้นทาง ต้องก้มมอง GPS แต่เมื่อเงยหน้ามาอีกทีทางเป็นโค้งหักศอกพอดี จึงต้องเลี้ยวกะทันหันทำให้รถพลิกคว่ำตกลงในคูน้ำ ทำให้ทั้งผู้ขับและคนนั่งโดยสารมาด้วยเสียชีวิตทั้งคู่ เป็นความสูญเสียที่ GPS นำทางมีส่วนอยู่ไม่น้อยทีเดียว
ยังมีอีก GPS พาไปเส้นทางน้ำท่วม แทบเอาชีวิตไม่รอด
ชาวต่างชาตินักดำน้ำมาเที่ยวเกาะภูเก็ต ขากลับขับรถตกคลอง ซึ่งสาเหตุหลักคือใช้ GPS นำทางมา และเหมือนเช่นเคย GPS พามาเส้นทางลัด แต่เผอิญเส้นทางนั้นเกิดน้ำท่วม ทำให้ยิ่งขับรถก็ยิ่งจมลงน้ำไปเรื่อยๆ สุดท้ายถูกน้ำพัดรถลอยไปตกคลอง โชคดีที่ทั้งคู่ไม่เป็นอะไร คือถ้าเส้นทางนั้นน้ำไม่ท่วม อาจไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และจะโชคดียิ่งกว่าถ้า GPS ไม่แนะนำทางลัด
สุดระทึก GPS นำทางไปตกสะพาน
อันนี้ระทึกสุดในโลกออนไลน์เมื่อมีการแชร์ภาพรถไปจอดเอียงบนสะพานปูนแคบๆ แทบจะตกคลองอยู่แล้ว ซึ่งสะพานปูนนั้นเป็นทางเดิน ขับรถเข้าไปไม่ได้เพราะทางไม่พอแน่ๆ แต่รถยนต์ก็ได้ขับเข้าไปในเส้นทางนั้น สาเหตุก็คือมาตามทางที่ GPS บอก ภาพดังกล่าวทำให้หลายคนให้ความเห็นว่า เส้นทางแบบนี้ ต่อให้ GPS บอกให้ไป เราก็ต้องไม่ขับไป เพราะมันขับไปไม่ได้!
(ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรารักด่านตรวจ)
แล้วเราจะเชื่อ GPS หรือ Google Map ได้ไหม?
ความจริงคือเชื่อได้แน่นอน แต่ควรเชื่อสัก 70% และเชื่อตัวเอง 30% เพราะระหว่างเส้นทางอาจมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น เส้นทางนั้นเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือ ถนนพัง หรือทางลัดนั้นอาจไม่เหมาะกับการใช้งานจริง ดังนั้นเราควรเตรียมแผนการเดินทางคร่าวๆ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ไม่ใช่ไปพึ่งแต่ GPS หรือให้ Google Map นำทางอย่างเดียว เพราะการขับตามเสียงบอกทางอย่างเดียว รับรองขับแล้วทำให้เครียดมาก เพราะเราจะเหมือนเครื่องจักร ต้องฟังคำสั่งอย่างเดียวว่าจะให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา กลายเป็นคนขับไม่ได้ใช้ความคิด ยิ่งถนนในประเทศเรา จะมีการทำทางแบบไม่รู้ล่วงหน้าบ่อยมาก ขาไปไม่มี ขากลับอาจกั้นทางเบี่ยง ให้ไปทางอื่น ก็เป็นไปได้หมด ดังนั้นให้ GPS เป็นแค่ “ผู้ช่วยนำทาง” ก็พอ แต่คนนำทางที่แท้ทรูคือตัวเรา
พบ 4 สาเหตุหลัก ทำ GPS พาหลง !
คุณวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด ซึ่งทำแผนที่นำทางประเทศไทยมากว่า 30 ปี ภายใต้แบรนด์ NOSTRA ได้ให้ความเห็นเรื่องการพาหลงของ GPS หรือระบบนำทางว่า
“ปัจจัยที่ทำให้ระบบนำทาง หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า GPSทำงานผิดเพี้ยนไป มีอยู่หลายปัจจัย ได้แก่
1.สภาพอากาศ เนื่องจากการรับส่งสัญญาณ ข้อมูลจะรับ-ส่งผ่านสัญญาณวิทยุ ดังนั้น หากสภาพอากาศไม่ดี อยู่ในที่อับ เช่น อยู่ในเมืองล้อมรอบด้วยตึกสูง ใต้ทางด่วน โทลเวย์ ตำแหน่งที่รับมาและแปลค่าอาจผิดไปจากตำแหน่งจริงหลายเมตร ทำให้ตำแหน่งปัจจุบันผิดไป ซึ่งจะทำให้การนำทางผิดเส้นทางไปได้
2.ซอฟต์แวร์ หมายถึง แอพพลิเคชั่นที่เขียนมีความเก่งกาจมากเพียงใดในการระบุตำแหน่ง โดยการใช้งานระบบนำทาง ผู้ใช้งานต้องตั้งค่าการใช้งานให้ชัดเจน เช่น ตั้งให้ค้นหาเส้นทางที่รถยนต์สามารถผ่านได้ เนื่องจากในระบบนำทางจะมีเส้นทางทุกเส้นทางสัญจร ทั้งคนเดินได้ รถจักรยานยนต์ผ่านได้ และรถยนต์ผ่านได้ ซึ่งการตั้งค่านอกจากการระบุเส้นทางการใช้งานแล้ว ยังมีการตั้งค่าให้ไปถึงจุดหมายโดยใช้ระยะทางที่สั้นที่สุด ซึ่งบางครั้งเส้นทางนั้นรถยนต์อาจจะไปได้ แต่ไม่สะดวก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่แคบหรือรถติด การตั้งค่าการเดินทางควรตั้งแบบให้รถยนต์วิ่งและระยะเวลาที่เร็วที่สุด
3.เนื้อหาของแผนที่ต้องมีการอัพเดทและมีข้อมูลที่ละเอียด โดยระบุชัดเจนว่าเส้นทางนี้ให้คนเดิน เส้นทางนี้สำหรับรถเล็กวิ่งผ่าน หรือเส้นทางนี้สำหรับรถใหญ่วิ่งผ่าน ซึ่งการอัพเดทแผนที่ทางบริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์ระบบนำทาง จะแจ้งให้ผู้ใช้งานที่ซื้อไปทำการอัพเดทแผนที่อยู่เสมออาจจะอัพเดททุก 6 เดือน แต่เนื่องจากแผนที่ของผู้ให้บริการแผนที่ของแต่ละบริษัท มีคุณภาพและความถูกต้องที่แตกต่างกัน จึงควรศึกษาและเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ และมีชื่อเสียงในการทำแผนที่ในตลาดด้วย
4. คนใช้งานระบบนำทางต้องมีวิจารณญาณพิจารณาว่าเส้นทางนั้นสามารถขับรถไปได้หรือไม่ เนื่องจากทั้ง 3 ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าเจอเส้นทางที่พิจารณาแล้วไม่สามารถขับรถเข้าไปได้ ให้ขับผ่านไปเพราะระบบนำทางจะทำการค้นหาเส้นทางใหม่ให้
ขอบคุณข้อมูล พบ 4 สาเหตุหลัก ทำ GPS พาหลง จาก pptv
ทุกครั้งที่ขับรถให้คิดไว้เสมอว่า เราคือผู้นำทางรถยนต์ไปให้ถึงปลายทาง ส่วน GPS เป็นแค่ผู้ช่วยบอกทาง เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อต้องพิจารณาดูที่หน้างานคือบนถนน ณ เวลานั้นด้วย สุดท้ายแล้วการตัดสินใจในทุกเส้นทางการเดินทางอยู่ที่เราเท่่านั้น