ยุคนี้คนขับรถนิยมถ่ายคลิปการขับรถบนท้องถนน หรือถ่ายภาพการขับรถของคนอื่นๆ มาลงในโซเชียล แม้เนื้อหานำเสนอจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่..บางครั้งคลิปหรือภาพที่ลงอาจทำให้คุณโดนฟ้องได้ วันนี้จึงขอเตือนคนเล่นโซเชียล ถ่ายภาพรถคนอื่นอย่างไรไม่ให้โดนฟ้อง

ถ่ายภาพรถคนอื่นลงโซเชียลอย่างไรไม่ให้โดนฟ้อง

การลงคลิปการเดินทางท่องเที่ยว หรือลงภาพถ่ายรถยนต์คนอื่นๆ เราจะลงอย่างไรได้บ้าง? คุณสามารถถ่ายคลิปการเดินทางท่องเที่ยวที่ติดรถคนอื่นได้ โดยการเบลอป้ายทะเบียนรถคนอื่น แม้ว่าไม่ได้เอ่ยถึงรถคันนั้นเลยก็ตาม วิธีนี้ช่วยให้จบทุกปัญหา แสดงเจตนาชัดเจนว่าเราไม่ต้องการละเมิดสิทธิ์ใคร หรือเลือกถ่ายในมุมที่ไม่เห็นป้ายทะเบียนรถคันอื่นชัดเจนเกินไป  ก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้คลิปของเรายังคงสวยงาม และไม่เกิดปัญหาใดๆ

ถ่ายคลิปรถคนอื่นที่ขับรถผิดกฎจราจร หรือขับรถเป็นอันตรายต่อส่วนรวมลงได้ไหม?

คลิปแบบนี้ถือว่าดีมีประโยชน์ คุณสามารถนำส่งไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดการตามกฎหมายได้ และหากอยากนำไปลงในโซเชียลเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ถึงการขับรถที่ประมาท หรือเสนอแนะเรื่องการขับรถที่ปลอดภัย เน้นการวิจารณ์แบบสุจริต ไม่ได้มุ่งเน้นด่าประจานคนขับรถยี่ห้อนี้ ป้ายทะเบียนนี้ หรือด่าว่าเสียๆ หายๆ ขับรถเลวแบบนั้นเลวแบบนี้ คลิปแบบนี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเบลอป้ายทะเบียนรถเช่นกัน

ถ่ายภาพรถที่เกิดอุบัติเหตุลงโซเชียลเพื่อแจ้งข่าวสาร

การลงคลิปรถหรือถ่ายภาพรถคนอื่น เป็นการลงเพื่อรายงานอุบัติเหตุโดยเร่งด่วน หรือสถานการณ์สำคัญบนท้องถนน รวมไปถึงการลงภาพเพื่อแจ้งข้อมูลรถที่ต้องการความช่วยเหลือบนท้องถนน เนื้อหาแบบนี้สามารถเปิดเผยป้ายทะเบียนได้ รวมไปถึงบอกชื่อผู้ขับขี่ที่ได้รับอันตรายหรือต้องการความช่วยเหลือได้ กรณีแบบนี้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะสื่อต่างๆ ก็ทำหน้าที่นี้เช่นกัน ข้อควรระวังคือเราสามารถลงคลิปลงภาพรายงานการเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ต้องระมัดระวังการวิจารณ์ ไม่ควรด่าว่าคนขับที่เกิดอุบัติเหตุให้เสื่อมเสียชื่อ หรือทำให้เกิดความเกลียดชัง

ถ้าไม่เบลอป้ายทะเบียนรถคนอื่นในคลิปหรือในภาพ ระวังผิด 4 มาตรานี้

การนำภาพรถที่เห็นป้ายทะเบียนชัดเจนลงโซเชียลพร้อมวิจารณ์ด่าว่าคนขับรถคันดังกล่าว แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตามที แต่ในทางกฎหมายจะแยกเป็น 2 กรณีคือ กรณีที่คนขับทำความผิดจริงจะต้องถูกปรับถูกจับตามคลิปที่ปรากฏ กรณีที่สองคือคุณไม่มีสิทธิ์เผยแพร่การประจานด่าว่าคนอื่นโดยเอ่ยชื่อหรือลงภาพที่ชี้ชัดไปถึงคนนั้น ไม่ว่าเขาจะทำผิดจริงหรือไม่ การด่าประจานคนอื่นให้เสียหายถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล

อาจจะผิดกฎหมาย 4 มาตรา ดังนี้

มาตรา 326 ว่าด้วยการหมิ่นประมาท อันนี้มีโอกาสโดนเต็มๆ  ว่าด้วยการทำให้ผู้อื่นเสียชื่อ โดนดูถูก ดูหมิ่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 16 อันนี้มากับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในกรณีที่ด่าว่าประจานคนอื่นโดยนำไปลงในโซเชียล เปิดแบบสาธารณะ ใครๆ ก็เห็นได้ มาตรา 16 จะมาทันที ว่าด้วย ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฎเป็นภาพผู้อื่น ทั้งสร้างขึ้น ตัดต่อ แต่งเติม ดัดแปลง และทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น   มีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท

มาตรา 420 ถ้าคนในคลิปหรือในภาพที่ถูกคุณด่าประจาน ได้รับความเสียหาย คุณอาจจะถูกฟ้องด้วยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 โดยผู้เสียหายขอเรียกค่าสินไหมทดแทน อันนี้แล้วแต่ดวงเลยว่าจะเรียกเท่าไร

มาตรา 328 สำหรับคนที่เป็นเจ้าของเพจเป็นผู้โพสต์ด่าประจานเอง หรือเจ้าของเว็บอนุญาตให้คนอื่นนำคลิปหรือภาพมาลงด่าประจานกันในเว็บ อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทโดยการเผยแพร่ภาพและข้อความ โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท

ทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้นได้เพราะแค่ไม่ยอมเบลอทะเบียนรถที่นำมาลงในโซเชียล แม้จะเป็นความปรารถนาดีที่จะบอกให้สังคมรับรู้ถึงความชั่วร้ายของคนขับรถบางคน แต่เราก็ต้องระวังเรื่องละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลให้มากด้วย ซึ่งการตัดสินว่าจะผิดหรือไม่ผิด ก็ต้องไปพิจารณาว่ากันที่ศาลอีกที

สรุปคือหากคิดจะด่าใครเพราะทนไม่ไหวจริงๆ ก็ควรด่าแบบมีศิลปะไม่ให้เข้าข่ายหมิ่นประมาท เพราะจะทำให้ตัวเราเดือดร้อนเสียเอง วิธีปลอดภัยไว้ก่อนก็คือเบลอทะเบียนรถคนอื่นไว้ดีที่สุด

ขอบคุณภาพประกอบ Josh BerquistHire