ผู้ใช้รถยนต์ EV ในหลายประเทศ ต่างให้คำตอบตรงกันว่ารถยนต์ EV ใช้แล้วประหยัดจริงได้ถึง 5 อย่าง เรามาลองดูว่าประหยัดอะไรบ้าง
1.ประหยัดค่าเชื้อเพลิงลดลงประมาณ 2 เท่า
เปรียบเทียบกับที่เคยใช้น้ำมัน หรือใช้แก๊ส หลังเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าแทน ผลปรากฏว่าค่าใช้จ่ายลดลง 2 เท่า รถยนต์ EV ประหยัดค่าเชื้อเพลิงชนะเลิศจริงๆ
2.ประหยัดค่าดูแลรักษารถยนต์
เครื่องยนต์รถยนต์ EV มีจำนวนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องยนต์สันดาป ของเหลวต่างๆ หลายอย่างรวมทั้งชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่เคยต้องเปลี่ยนตามระยะเวลาต่างๆ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนอีกแล้ว รวมทั้งรถยนต์ EV ยังดูแลรักษาง่ายกว่า ทำให้ประหยัดค่าดูแลรถยนต์ลดลงกว่าเดิมเท่าตัว รวมถึงประหยัดเวลาที่ต้องคอยดูแลอีกด้วย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
3.ใช้พลังงานโซลาเซลล์ชาร์จไฟได้
มีผู้ใช้รถยนต์ EV จำนวนหนึ่ง ใช้ระบบโซลาเซลล์เพื่อชาร์จไฟรถยนต์ ทำให้ประหยัดแล้วประหยัดอีก เรียกว่าเราสามารถลดค่าใช้จ่ายพลังงานจนเหลือศูนย์บาทก็ยังได้ รถยนต์ EV จึงเป็นรถที่ใช้พลังงานทางเลือกได้ถึง 2 ทางทั้งไฟบ้าน และไฟโซลาเซลล์
4.มลพิษเหลือศูนย์
ใช้รถยนต์ EV แล้วทุกคนจะรู้สึกภูมิใจ เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยประหยัดการปล่อยมลพิษสู่โลก รถยนต์ EV มลพิษคือศูนย์ นั่นหมายถึงคุณคือคนหนึ่งที่ช่วยทำให้โลกสดใสและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดจำนวนผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจจากมลพิษอีกด้วย
5.ลดมลพิษทางเสียง
รถยนต์ EV เครื่องเดินเงียบมาก เพราะไม่มีเสียงเครื่องยนต์ทำงาน สามารถเร่งเครื่องได้ดี รถยนต์เดินเรียบ ขับสนุก ให้ความรู้สึกดี รวมทั้งได้ประสบการณ์ดีๆ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่กับการขับรถยนต์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผู้ใช้รถยนต์ EV ต่างชื่นชมในสิ่งนี้
ส่วนข้อกังวลเรื่องการชาร์จไฟตามสถานีซึ่งปัจจุบันยังมีไม่มากพอ และต้องใช้เวลาชาร์จไฟนาน ผู้ใช้รถยนต์ EV หลายคนกลับมองว่า สิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหา หากเรารู้จักวางแผนการชาร์จไฟและการเดินทางให้เหมาะสมกัน การชาร์จไฟที่บ้านนี่แหละคือสิ่งที่อำนวยความสะดวกสบายที่สุด และเป็นจุดดีของรถยนต์ EV เปรียบเหมือนเรามีปั๊มน้ำมันที่บ้านตัวเอง ไม่ต้องไปหาสถานีอื่นให้วุ่นวาย ข้อสำคัญคือต้องวางแผนการชาร์จไฟให้เป็นแค่นั้นเอง
ใครบ้างไม่ควรซื้อรถยนต์ EV มาใช้
แม้ผู้ใช้รถยนต์ EV ต่างลงความเห็นว่ารถยนต์ EV ใช้แล้วประหยัดจริงได้ถึง 5 อย่าง แต่ก็ยังมีคำแนะนำว่าสำหรับบางคนอาจยังไม่จำเป็นต้องซื้อรถยนต์ EV มาใช้ ให้ลองตอบคำถามนี้ก่อนว่า คุณควรจะซื้อหรือไม่
- ถามตัวเองว่าวันๆ คุณขับรถมากน้อยแค่ไหน ถ้าขับรถน้อยมากก็อาจไม่จำเป็นต้องซื้อรถใหม่ เพราะความประหยัดที่ได้กับราคารถที่ต้องจ่ายไป เทียบกันแล้วอาจไม่คุ้มค่ากับการใช้งานและเงินที่เสียไป
- สะดวกชาร์จไฟที่บ้านหรือไม่ บางคนอยู่ห้องเช่า อยู่คอนโด อพาร์ทเมนต์ คุณอาจไม่สะดวกในเรื่องชาร์จไฟ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ EV
- เดินทางไกลบ่อยแค่ไหน หากต้องเดินทางไกลตลอดเวลา ด้วยจำนวนสถานีชาร์จไฟในเวลานี้อาจไม่สะดวกสำหรับคุณ
หากทุกข้อที่กล่าวมาไม่ใช่ปัญหา ก็น่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะเป็นเจ้าของรถยนต์ EV สักคัน