คลังเก็บป้ายกำกับ: ซื้อรถใหม่ทำไม แค่ดูแลรถเก่าให้ดี ก็ใช้ได้นานกว่า 10 ปีขึ้นไป

ซื้อรถใหม่ทำไม แค่ดูแลรถเก่าให้ดี ก็ใช้นานกว่า 10 ปีขึ้นไป

ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี แนวโน้มข้างหน้าก็ยังไม่ชัดเจน การตัดสินใจซื้อรถใหม่เวลานี้อาจเป็นการสร้างภาระหนี้ก้อนโตให้คุณโดยไม่จำเป็น ทางที่ดีทำไมเราไม่ลองมาเปลี่ยนความคิดใหม่แทนการซื้อรถใหม่ ลองถามตัวเองอีกครั้งว่า เราจะ ซื้อรถใหม่ทำไม แค่ดูแลรถเก่าให้ดีก็ใช้นานกว่า 10 ปีขึ้นไป

ซ่อมรถเก่า  ซื้อรถใหม่ อย่างไหนคุ้มกว่ากัน

ในยุคเดิมเราจะเชื่อกันว่ารถเมื่ออายุ  7-10 ปีขึ้นไปจะเริ่มถึงเวลาซ่อมใหญ่ คือมีอะไหล่หลายชิ้นในรถที่จะเสียไปเรื่อยๆ ความรู้สึกของคนใช้รถจะรู้สึกเอือมระอามาก ไม่อยากใช้รถต่อไปเพราะเบื่อการซ่อม  ถ้าจะขายหลายคนก็จะขายกันตอนนี้แหละ แต่ความจริงก็คือในยุคปัจจุบันรถยนต์มีความทนทานมากขึ้นกว่าเดิม หากดูแลอย่างดี เราสามารถใช้รถได้ถึง 10-14 ปีขึ้นไป 

ถามว่า ถ้าทนใช้รถเก่าต่อไป ก็ต้องซ่อมต้องเปลี่ยนอะไหล่แพงๆ ใช่ไหม? ตอบเลย ว่าใช่ หลัง 7 ปีมีแน่นอนตามการใช้งาน จะว่าไปมีทั้งอะไหล่ที่ต้องซ่อมต้องเปลี่ยนราคาหลักพัน ไปยันซ่อมแบบแพงหลักหมื่นก็มี 

แต่…ถามว่าซ่อมแล้วคุ้มไหม?  คำตอบก็คือ หากคำนวณกันจริงๆ ยัไงก็คุ้มกว่าต้องจ่ายเงินซื้อรถใหม่ทั้งค้น  ซ่อมหลักหมื่น อย่างน้อยก็ประหยัดกว่าต้องเสียเงินหลักแสนหลักล้าน แต่ก็นั่นแหละ คนใช้รถส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจซื้อรถใหม่เพราะเบื่อการซ่อมแบบต่อเนื่องในช่วงรถเริ่มมีปัญหากวนใจ ทุกคนจะรู้สึกว่าทำไมจะต้องจ่ายเงินค่าซ่อมไม่หยุดไม่หย่อนเสียที เดี๋ยวห้าพัน เดี๋ยวแปดพัน เดี๋ยวหนึ่งหมื่น แต่ความจริงแล้วมันจะมีช่วงหยุุด! หลังจากเราซ่อมไปจนครบแล้ว รถยนต์ของเราก็จะใช้งานได้ราบรื่นไปอีกพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว ขอให้เราจงอดทนและคิดถึงวันนั้นเข้าไว้

รวมเงินค่าซ่อมอย่างไรก็ยังถูกกว่าซื้อรถใหม่ทั้งค้น 

ซื้อรถใหม่ทำไม แค่ดูแลรถเก่าให้ดีก็ใช้นานกว่า 10 ปีขึ้นไป
Photo by Mike from Pexels

วิธีดูแลรถง่ายๆ ให้ใช้ได้ 10 ปีขึ้นไป

ว่าแล้วเราลองมาหาวิธีดูแลรถยนต์ของเราให้ได้เกิน 10 ปีขึ้นไปกันดีกว่า วิธีง่ายที่สุดคือดูแลตามระยะทางและระยะเวลาที่กำหนด ตามสมุดคู่มือรถที่เขาให้มากับรถ จะกำหนดว่าระยะทางหรือระยะเวลาเท่าไรจะต้องดูแลอะไรบ้าง สรุปคร่าวๆ ให้ยึดคู่มือการซ่อมบำรุงตามยี่ห้อรถของคุณเป็นหลัก

รถยนต์ต้องเปลี่ยนอะไรบ้างตามระยะเวลา

โดยทั่วไปการดูแลรถยนต์พื้นฐานคือ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ เปลี่ยนกรองเชื้อเพลิง เป็นการเปลี่ยนแบบยืนพื้นทั่วไป นอกเหนือจากนี้จะมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เปลี่ยนยางรถยนต์ เป็นระยะๆ แต่เมื่อรถมีอายุการใช้งานมากขึ้นก็จะเริ่มมีส่วนต่างๆ สึกหรอ จะเริ่มมีการเปลี่ยนเพิ่มเติมมากขึ้น ซึ่งเราจำเป็นต้องเปลี่ยนไปตามอายุการใช้งานหรือระยะเวลา

ตารางการดูแลรถยนต์เพิ่มเติมตามอายุการใช้งาน

อายุรถยนต์ การดูแลเพิ่มเติมการตรวจเพิ่มเติม
ทุก  5000 ก.ม.หรือ 10000 ก.ม.
หรือทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี 
สลับยาง
20000 ก.ม.       
30000 ก.ม.
ตรวจช่วงล่าง เปลี่ยนผ้าเบรคจูนอัพรอบเดินเบา ตั้งระยะเบรคมือ

50000 ก.ม.   80000 ก.ม.    
100000 ก.ม.    
120000 ก.ม.   
160000 ก.ม.    
200000 ก.ม.
เปลี่ยนยาง
เปลี่ยนหัวเทียน
เปลี่ยนสายพาน ราวลิ้น
เปลี่ยนผ้าเบรค
ตรวจน้ำยาแอร์
จูนอัพรอบเดินเบา
ตรวจเช็คท่อยางน้ำมันรั่วซึมตามจุดต่างๆ 
ตรวจหม้อลมเบรค
ตรวจช่วงล่าง โช้คอัพ
ตรวจเพลา ยางหุ้มเพลา

เข้าศูนย์หรืออู่ทั่วไปดี

หากอยู่ในระยะประกันให้เข้าศูนย์ทุกครั้งจนหมดระยะประกัน เพราะหากคุณนำรถไปเข้าที่อื่น หากเกิดปัญหาขึ้นมา บริษัทอาจไม่รับผิดชอบ หลังจากนั้นแล้วคุณอาจใช้บริการอู่ข้างนอกได้ เพราะการเปลี่ยนแค่น้ำมันเครื่อง ไส้กรอง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ทำได้ไม่ยากเลย 

แต่หากเป็นการซ่อมแก้ไขในเรื่องระบบเครื่องยนต์ และรถยนต์ของคุณมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย หรือเป็นรถรุ่นใหม่ แนะนำให้เข้าศูนย์ดีที่สุด เนื่องจากช่างศูนย์รถยนต์จะมีความชำนาญด้านการดูแลบำรุงรักษารถยนต์ยี่ห้อตัวเองได้เก่งกว่าช่างซ่อมรถทั่วไปแน่ๆ เพราะช่างศูนย์ต้องมีการอบรมความรู้เพิ่มเติมให้ทันกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า และศูนย์แต่ละศูนย์ช่างก็อาจเก่งไม่เท่ากันอีก บางอาการรถยนต์ บางศูนย์ซ่อมหาย บางศูนย์ซ่อมไม่หาย ดังนั้นต้องเช็คให้ดีว่าศูนย์ไหนซ่อมดีซ่อมหายขาด

ใช้รถยนต์อาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย นอกจาดูแลรถยนต์ตามระยะเวลาแล้ว ให้หมั่นใช้รถเป็นประจำด้วย รถยนต์ยิ่งใช้ยิ่งดีต่อระบบเครื่องยนต์ แต่ถ้าไม่ได้ไปไหนจริงๆ ให้พยายามขับรถอาทิตย์ละ 2 ครั้ง วิ่งใกล้และวิ่งไกลบ้าง เพื่อให้เครื่องยนต์ได้ทำงาน น้ำม้นต่างๆ ที่นอนก้นในเครื่องยนต์ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัย จะได้ไหลเวียนในระบบเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยให้รถยนต์มีสุขภาพดี เนื่องจากระบบต่างๆ ได้ทำงาน รวมถึงยางรถยนต์ด้วย

ขับรถด้วยความนุ่มนวล ฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มีผลต่ออายุการใช้งานรถยนต์ ทั้งการออกตัว การเร่งความเร็ว การขับ การเบรค ให้ทำอย่างคนปกติเขาทำกัน การขับรถอย่างเกรี้ยวกราด ออกตัวแรง เบรคแรงเอี๊ยดอ๊าดตลอด กดคันเร่งอย่างรวดเร็ว ขับรถเหมือนผีสิงร่าง มีความรีบร้อนตลอดเวลา  จะทำให้รถเครียดตามอารมณ์คนขับ เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าเดิม สุดท้ายแล้วรถก็จะพังเร็วขึ้นโดยไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด

ดูแลรถยนต์สองอาทิตย์ 1 ครั้ง หากดูได้อาทิตย์ละครั้งก็ยิ่งดี ล้างทำความสะอาดรถภายนอกแล้ว อย่าลืมเปิดฝากระโปรง เช็คน้ำในหม้อพักน้ำ น้ำกลั่นแบตเตอรี่ ดูรอยน้ำมันรั่วต่างๆ ทั้งจากเครื่องยนต์และใต้ท้องรถว่ามีอะไรหยดไหม รถยนต์จะส่งสัญญาณเตือนก่อนเสมอเมื่อมันทำงานได้ไม่เต็มที่หรือมีปัญหา พวกสัญลักษณ์ไฟหน้าจอต่างๆ จะเป็นตัวแจ้งเหตุได้ดีมาก หากเราสังเกตเห็นก่อน ก็สามารถแก้ไขอาการเบื้องต้นได้ที่ก่อนจะลุกลามบานไปไกล 

หลักการง่ายๆ ก็คือตรวจเช็คตามระยะเวลา รถเสียตรงไหน ก็ซ่อมตรงนั้นไป ดูแลกันไปเรื่อยๆ ตามอาการรถ

ซื้อรถใหม่ทำไม แค่ดูแลรถเก่าให้ดีก็ใช้นานกว่า 10 ปีขึ้นไป รถคันหนึ่งมีอายุยืนยาวเกิน 10 ปีได้สบายๆ อาจจะเบื่อบ้างที่ต้องคอยซ่อม อาจจะเบื่อขี้หน้ารถคันเดิมๆ ที่อยู่กับเรามานาน แต่ขอให้คิดเสียว่ายอมจ่ายเงินหมื่นเพื่อรักษาเงินแสนของเราไว้ก่อน 

 มีเงินพร้อมเมื่อไร ก็แค่ขายรถเก่าเพื่อไปถอยรถใหม่ อะไรก็ไม่ยากขอแค่มีเงินเท่านั้นเอง