พอทำงานได้สักพัก เชื่อว่าทุกคนก็ฝันอยากมีรถสักคัน การเป็นเจ้าของรถคันแรกในชีวิตเป็นจริงได้เสมอ ถ้าเราตั้งใจแน่วแน่ที่จะเก็บเงินซื้อรถยนต์ สิ่งสำคัญคือ เก็บเงินซื้อรถคันแรก ต้องวางแผนออมเงินอย่างมืออาชีพ
ตรวจสอบรายได้ตัวเองให้ดีก่อน
ก่อนจะซื้อรถยนต์คันแรกซึ่งเป็นของราคาแพง เราต้องตรวจสอบรายได้ตัวเองก่อนว่าถ้าซื้อรถแล้ว เราจะยังมีอะไรกินไหม? ที่ไม่ใช่มาม่าอ่ะนะ มีรถแล้วเราต้องเอามือก่ายหน้าผากทุกสิ้นเดือนไหม? เราจะรอดไหม?
ตัวเลขกลมๆ ก็คือ หลังจากซื้อรถแล้ว เราควรมีเงินเหลือในบัญชีไว้ใช้ยามฉุกเฉินด้วย จะเป็นหลักหมื่นหรือหลักแสนได้ก็ยิ่งดี เราไม่ควรทุ่มซื้อรถจนหมดเนื้อหมดตัวเป็นอันขาด เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าจะมีเหตุไม่คาดคิดต้องใช้เงินด่วนหรือเปล่า ถ้าซื้อเงินผ่อน ก็ไม่ควรผ่อนจนหน้ามืดต้องดม เซียงเพียงอิ๊วทุกเดือน สุดๆ ควรผ่อนไม่เกิน 30-40% ของเงินเดือนหรือรายได้ ที่เหลือ 60-70% ต้องเก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตให้พอมีความสุขไปด้วย ไม่ใช่ซื้อรถมาแล้วกลายเป็นทุกขลาภ ผวาทุกสิ้นเดือน
หากตรวจสอบตัวเองแล้วว่าน่าจะมีเงินหมุนเวียน มีเงินเข้าทุกเดือนไปอีกหลายปี หรือที่ทำงานมีความมั่นคง ก็จัดไปเลย..มีรถคันแรกมีความสุขจะตายไป เชื่อเหอะ
จะซื้อสดหรือผ่อน?
ซื้อเงินสดดีที่สุด ข้อดีของการซื้อสด คุณจะดูป๋ามากๆ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ประหยัดไปได้หลายหมื่นบาทมาก ข้อไม่ดีคือ ต้องออมเงินให้ได้เงินก้อนใหญ่ ซึ่งบางคนอาจใช้เวลาไม่นาน แต่บางคนอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเก็บครบ ไปๆ มาๆ เลยไม่เก็บแล้วโว้ย.. เบื่อ… ไม่ได้ขับรถสักที ระหว่างรอเงินครบ ราคารถจะแอบขึ้นไปเรื่อยๆ อีกต่างหาก เอาเป็นว่าหากตั้งใจซื้อเงินสด เราอย่าท้อถอย ต่อให้ขึ้นราคายังไงก็ยังไม่เท่ากับดอกเบี้ยที่เสียไป เก็บต่อไป นะ นะ นะ
ซื้อเงินผ่อนก็ได้ ข้อดีของเงินผ่อนก็คือซื้อก่อน ได้ขับรถก่อน อยากขับก็ต้องได้ขับ ได้ใช้รถขับไปประกอบอาชีพทำมาหากิน อาจทำมาค้าขึ้นได้เงินมากกว่าดอกเบี้ยที่เสียไปอีก หรือถึงเสียดอกเบี้ย แต่ก็คุ้มค่าเพราะได้ใช้รถขับไปทำงาน ใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างความสะดวกสบาย สร้างความสุข
ไม่ว่าสดหรือผ่อน เก็บเงินซื้อรถคันแรก ต้องวางแผนออมเงินอย่างมืออาชีพ
สิ่งแรกก็คือเราต้องทราบก่อนว่าราคารถรุ่นที่เราต้องการซื้อเท่าไร สมมติว่ารถราคา 9 แสนบาท เราก็เริ่มตั้งเป้าว่าจะเก็บเงิน 9 แสนให้ได้ภายในกี่ปี เช่น เราสวยและรวยมากอยากเก็บ 3 ปี !
เราก็เอา 9 แสนตั้งหาร 3 เท่ากับเก็บปีละ 3 แสนชิลล์ๆ
ถ้าหารด้วย 12 เดือน ตกเดือนละ 25,000 บาท ซึ่งถ้าหากหนักเกินไป ก็เพิ่มจำนวนเดือนจำนวนปีขึ้นอีกหน่อย อย่าให้ถึงกับไม่มีอะไรจะกินเป็นอันขาด
3 วิธีออมเงินอย่างมืออาชีพ
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทันที เมื่อตั้งใจจะซื้อรถ เราต้องเริ่มเก็บเงินให้ได้มาก ให้ได้เร็ว การลดค่าใช้จ่ายคือการออมเงินชนิดหนึ่ง เช่น ลดการดูหนัง ลดการช้อปปิ้ง ลดการกินกาแฟร้านแพงๆ แล้วนำเงินส่วนนั้นมาเก็บเงินเป็นเงินออม เช่นลดได้ 1,000 บาท เท่ากับเก็บเงินได้ทันที 1,000 บาท ฟรีๆ ทุกเดือน เงินส่วนนี้เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเมื่อออกรถ เช่น ค่าประกัน ค่าทะเบียน ค่าตกแต่งรถ ฯลฯ
- ฝากประจำดอกเบี้ยสูงเท่ากับจำนวนเงินต้องการออม ถ้าต้องออมเงินเดือนละ 25,000 บาท ก็ไปติดต่อฝากประจำ 24-36 เดือน ดอกเบี้ยสูง ที่หลายธนาคารมีบริการเงินฝากประจำแบบนี้ carwidee ช่วยเช็คดอกเบี้ยขณะนี้ (กันยายน 2562) ธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุดคือ บัญชีเงินฝากปลอดภาษี-ธนาคารไทยเครดิต ดอกเบี้ย 2.750 – 3.000 %
หากไม่สะดวก ยังมีอีก 2 ธนาคารที่ดอกเบี้ยตามมาติดๆ คือ 2.6% ได้แก่ ธนาคารธนชาต และ ธนาคารไทยพาณิชย์ การฝากประจำแบบนี้เป็นการสร้างวินัยการออมได้ดีเยี่ยม และยังถือเป็นการออมที่ได้ดอกเบี้ยสูงอีกต่างหาก ผ่านไป 3 ปี ได้ดอกเป็นหลักพันบาทแน่นอน ที่สำคัญถ้าหากเปลี่ยนใจไม่อยากซื้อรถ ก็ยังได้เงินก้อนงามๆ คุ้มค่ากับการอดออมมาก
- ฝากประจำเงินฝากออมทรัพย์เพื่อการเช่าซื้อรถ อันนี้น่าสนใจตรงที่เป็นบริการออมเพื่อซื้อรถโดยเฉพาะ จัดโดยธนาคารทิสโก้ ซึ่งได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์ Auto Savings สำหรับบุคคลธรรมดาที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ กำหนดให้ฝากเงินเป็นประจำทุกเดือนขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อเดือน แต่ละเดือนสามารถฝากได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และเมื่อฝากครบกำหนดโดยไม่มีการถอนเงิน ตามกำหนดระยะเวลา ผู้ฝากจะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นดอกเบี้ยพิเศษ เช่น ฝากครบ 8 เดือนจะได้บวกโบนัสเพิ่มอีก 10% ที่น่าสนใจมากคือได้สิทธิประโยชน์ส่วนลดดอกเบี้ยเช่าซื้ออีก 0.1% ของอัตรา Flat Rate เมื่อทำสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคารทิสโก้โดยใช้ชื่อบุคคลเดียวกัน
เก็บเงินซื้อรถคันแรก ต้องวางแผนออมเงินอย่างมืออาชีพ ไหนๆ จะออมเงินแล้ว ให้ออมเงินผ่านระบบเงินฝากธนาคารดีกว่า จะทำให้เราได้ประโยชน์สูงสุด ขอให้ทุกท่านฝันเป็นจริงกันทุกคน ไม่นานเกินรอหรอกจะได้สตาร์ตรถใหม่คันแรกในชีวิตแน่ๆ