ถนนในเมืองไทยหากฝนตกหนักปัญหาน้ำท่วมอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ คำถามที่ผู้ใช้รถกังวลใจคือขับรถยนต์ EV ลุยน้ำท่วม รถจะมีปัญหาอะไรไหม?
ขับรถยนต์ EV ลุยน้ำท่วม รถจะมีปัญหาอะไรไหม?
โดยทั่วไปไม่ว่าจะขับรถเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล เราสามารถขับรถลุยน้ำท่วมที่สูง 10 -20 เซนติเมตรได้สบายๆ หรือคิดง่ายๆ คือน้ำท่วมสูงไม่เกินครึ่งล้อรถ หรือท่วมสุดๆ ก็ขออย่าให้ถึงท่อไอเสียรถยนต์ เราแค่ค่อยๆ ขับประคองไปก็สามารถฝ่าน้ำท่วมไปได้ รถยนต์ EV ก็เช่นเดียวกัน เราสามารถขับด้วยหลักการเดียวกับรถเครื่องยนต์เบนซินได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลใจใดๆ รถเครื่องสันดาปเคยขับลุยน้ำท่วมอย่างไร รถยนต์ EV ก็ขับได้แบบนั้น
รถยนต์ EV ป้องกันน้ำได้เท่ากับรถยนต์ใช้น้ำมันหรือไม่?
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ EV ต่างยืนยันว่ารถยนต์ EV ถูกออกแบบและทดสอบเรื่องการป้องกันความเสียหายจากน้ำเช่นเดียวกับรถยนต์สันดาปทั่วไป คิดภาพตอนล้างรถ รถยนต์ EV ก็ล้างรถได้ตามปกติ ฉีดน้ำล้างรถได้พอๆ กับรถยนต์ปกติ ขอให้มั่นใจว่ารถยนต์ EV แต่ละยี่ห้อได้ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนดแล้วก่อนจะผลิตออกมาจำหน่าย
รถยนต์ EV ไฟฟ้าลัดวงจรได้ไหมหากต้องเจอน้ำ?
ถ้าเป็นระบบไฟฟ้าทั่วไป เราจะกังวลเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งทำให้เกิดไฟไหม้ได้ รวมไปถึงเวลาโดนน้ำจะเกิดไฟดูดได้ แล้วถ้าเป็นรถยนต์ EV ล่ะ เราจะถูกไฟดูดไหม ไฟจะไหม้ได้ไหม?
ขุมพลังไฟรถยนต์อยู่ที่แบตเตอรี่ ขอให้คิดภาพตามว่าสายไฟที่ต่อจากแบตเตอรี่ที่วางเชื่อมต่อไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า ได้หุ้มฉนวนกันน้ำอย่างแน่นหนา น้ำจึงไม่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในส่วนนี้ได้ รวมทั้งยังมีระบบป้องกันความผิดพลาดโดยตัดการทำงานอัตโนมัติกรณีที่เกิดการชนจากภายนอกหรือไฟฟ้าลัดวงจรจากภายใน
ชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าขณะฝนตกหรือน้ำท่วมได้ไหม?
คำตอบคือได้ เพราะระหว่างจุดชาร์จไฟที่ใช้สายต่อมาที่รถยนต์ EV สายชาร์จไฟมีฉนวนที่แน่นหนากันน้ำได้แน่นอน แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าถ้าไม่จำเป็นก็ให้หลีกเลี่ยงในกรณีที่คุณใช้สายเชื่อมต่อชาร์จไฟหลายเส้น นั่นก็คือจากจุดชาร์จไฟต่อเต้าเสียบหนึ่ง หรือเต้าเสียบสองเพื่อต่อมายังรถยนต์ EV ของคุณ สายต่อไฟชาร์จที่วางบนพื้นขณะฝนตกหรือน้ำท่วม หรือมีสภาพเปียกชื้น อาจไม่ปลอดภัยหรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสายต่อชาร์จนั้นด้วยว่ามีมาตรฐานป้องกันน้ำได้ขนาดไหน ทางที่ดีอย่าประมาทไว้ดีที่สุด
ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ต้องรู้…ขับรถยนต์ EV ลุยน้ำท่วม รถจะมีปัญหาอะไรไหม? สรุปก็คือใช้ชีวิตตามปกติเหมือนขับรถยนต์ทั่วไปนั่นเอง