คลังเก็บหมวดหมู่: car news

ผู้ซื้อรถรอลุ้นสิทธิ์โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ 2563

หลังจากโครงการจ่ายคนละครึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มาถึงอีกหนึ่งโครงการที่หลายคนรอคอย โดยเฉพาะผู้ซื้อรถรอลุ้นสิทธิ์โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ 2563 ซึ่งมีหลายข้อเสนอแต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจน วันนี้เรามีความคืบหน้ามาฝาก ส่วนผลสรุปแน่นอนคงต้องอดใจรอต้นเดือนธันวาคมนี้

ลุ้นรับสิทธิ์โครงการรถเก่าแลกรถใหม่

ใครบ้างมีสิทธิ์โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ 2563

หลายๆ ฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้มีข้อเสนอที่ตรงกันคือการลดภาษี 3 เปอร์เซ็นต์ของราคารถยนต์ แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนคุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้มีสิทธิ์รับส่วนลดนี้ก็ตามชื่อโครงการนี้เลย นั่นก็คือผู้มีรถเก่าและต้องการนำมาแลกเพื่อซื้อรถใหม่

รถเก่าแค่ไหนที่แลกได้?

อายุความเก่าของรถยนต์ตอนนี้มีหลายข้อเสนอ มีตั้งแต่ รถอายุ 16 ปีขึ้นไป และข้อเสนออายุตั้งแต่ 10 -12 ปีขึ้นไป ความชัดเจนว่าจะต้องเก่ากี่ปีคงต้องรอสรุปอีกครั้งในเร็วๆ นี้  

ปัญหาที่น่าเป็นห่วงของเรื่องนี้คือ ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าผู้เป็นเจ้าของรถเก่าจะต้องครอบครองรถเก่ามานานกี่ปีถึงมีสิทธิ์ เช่น ไม่น้อยกว่า 1-2 ปี เพราะหากกำหนดว่าใครก็ได้ที่เป็นเจ้าของรถเก่า เราอาจเห็นการซื้อขายรถเก่ากันเพื่อให้ได้สิทธิ์แลกซื้อ ซึ่งน่าจะวุ่นวายมาก และอาจผิดประสงค์ของโครงการได้

ลุ้นโครงการรถเก่าแลกรถใหม่

แลกซื้อรถใหม่ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อไหม?

ยังไม่มีใครพูดถึงประเด็นนี้ ที่ได้ยินมาอาจมีเฉพาะบางยี่ห้อและบางรุ่นเท่านั้น ข้อเสนอที่มีการพูดถึงมากที่สุดคือรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งรถยนต์หลายค่ายเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ากันไปแล้วหลายรุ่น ข้อเสนอนี้มีการผลักดันอย่างชัดเจนเพื่อเป็นการเริ่มต้นส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ปัญหาของเรื่องนี้คือ ราคารถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างสูงมาก รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดีๆ ราคาแตะล้านบาทกันทั้งนั้น การให้สิทธิ์ลด 1 แสนบาท อาจจูงใจน้อยเกินไป และที่สำคัญผู้ใช้รถทั่วไปยังไม่เคยชินกับรถยนต์ไฟฟ้า เรียกว่า กล้าๆ กลัวๆ ที่จะเลือกใช้ แต่หากมีข้อเสนอให้แลกซื้อรถทั่วไปได้โดยกำหนด ซีซี สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น เครื่องยนต์ 1200 – 1500 ซีซี อาจได้รับการตอบรับมากขึ้น

โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ของรัฐบาล 2563 ถือเป็นโครงการที่น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งถ้าทำได้จริง  โดยเฉพาะกระตุ้นธุรกิจรถยนต์ที่ปีนี้แต่ละค่ายได้รับผลกระทบอย่างหนัก ยอดขายตกกันถ้วนหน้าไม่ต่ำกว่า 20-50 เปอร์เซ็นต์ โครงการนี้น่าจะเป็นพระเอกที่มาช่วยกระตุ้นยอดขายปลายปี เป็นประโยชน์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย 

ผู้ซื้อรถรอลุ้นสิทธิ์โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ 2563 รัฐบาลควรเร่งสรุปให้เร็ว กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ซื้อให้ชัดเจน แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จคือต้องหาแรงจูงใจให้เจอ หากข้อเสนอไม่โดนใจ โครงการนี้อาจจะแป๊กได้ 

ขอบคุณภาพปกCarlo D’Agnolo / ขอบคุณภาพประกอบ Gabriel Jimenez

NISSAN ปรับตัวสู้ธุรกิจเพื่อไปต่อ หยุดผลิต 3 รุ่น มุ่งเน้น ECO แทน

ถือเป็นข่าวช็อคเล็กๆ ในวงการธุรกิจรถยนต์ก็ว่าได้ เมื่อ Nissan ประเทศไทย ประกาศหยุดผลิตและทำการตลาดรถ 3 รุ่นได้แก่ Nissan X- Trail, Nissan Teana และ Nissan Sylphy และหันไปโฟกัสตลาด ECO CAR โดยเฉพาะรถยนต์ E-POWER เต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งเหนือกว่าค่ายอื่น  การตัดสินใจครั้งนี้ต้องยอมรับว่าเป็นการปรับตัวที่ไม่มีใครคาดคิด แม้จะสร้างความตกใจให้วงการไม่น้อย แต่ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่ Nissan ปรับตัวสู้ธุรกิจเพื่อไปต่อ  การหยุดผลิต 3 รุ่น มุ่งเน้น eco แทน น่าจะเป็นหนทางรอดในธุรกิจที่ดี

NISSAN ปรับตัวสู้ธุรกิจเพื่อไปต่อ

ทำไม NISSAN หยุดผลิต 3 รุ่นนี้?

เหตุผลก็คือแม้รถทั้ง 3 รุ่นของ Nissan จะเป็นรถที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าการทำตลาดไม่ได้ง่ายเลย เนื่องจากคู่แข่งของ Nissan X – Trail นั้นแข็งแกร่งมาก ทั้ง Honda CR-V , Mazda CX-5 รวมไปถึงน้องใหม่อย่าง MG HS ก็กำลังไล่บี้มาติดๆ การจะทำการตลาดเพื่อไต่ระดับขึ้นมาครองส่วนแบ่งอย่างที่ต้องการ ก็ต้องออกแรงอีกเยอะ แม้ถ้าเทียบคุณสมบัติรถยนต์แล้วจะสู้ได้ แต่เรียกว่าต้องเหนื่อยแน่นอน 

NISSAN ปรับตัวสู้ธุรกิจ

ส่วน Nissan Teana ก็ยังมีคู่แข่งแข็งแกร่งอย่าง Honda – accord คอยเบียดอยู่ตลอด และ Nissan Sylphy คอมแพคคาร์ที่ดีเพียบพร้อม ที่ค่าย NISSAN หมายมั่นจะส่งมาปราบคู่แข่ง และคาดหวังว่าน่าจะสู้ได้ แต่ทั้งหมดนี้ก็คือต้องลงทุนลงแรงสู้ไปทุกๆ เซ็กเมนต์การตลาดพร้อมกัน ในสภาวะที่ธุรกิจรถยนต์ยอดขายดิ่งลงอย่างหนัก มีการคาดการณ์ว่า “ยอดขายรถยนต์” ยากจะกลับมาขายดีเหมือนก่อนได้ในระยะเวลาอันใกล้ ทุกค่ายต้องปรับตัว คงไม่มีใครอยากจากไปเหมือน เชฟโรเล็ต แน่นอน 

NISSAN ปรับตัวสู้ธุรกิจ

ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ

ในอนาคตอันใกล้นี้ ค่ายรถยนต์จะต้องเปลี่ยนการผลิตไปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างแน่นอน 

การที่ Nissan ปรับตัวสู้วิกฤตธุรกิจก่อนใคร ถือเป็นการยอมทิ้งไพ่ในมือที่มากเกินไปออกไปก่อน เหลือแต่ไพ่ไม้เด็ดอย่าง ECO CAR ที่ Nissan ถือว่ามีจุดขายเหนือกว่าคู่แข่ง การที่จะหันไปเริ่มต้นทำตลาดจริงจังกับรถพลังงานไฟฟ้า 100 % ด้วยการเปิดตัว Nissan Kicks ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก 

 Nissan ปรับตัวสู้ธุรกิจเพื่อไปต่อ การไม่ต้องแบกรับภาระการทำตลาดพร้อมๆ กันหลายเซ็กเมนท์ช่วยให้บริษัทเบาตัวขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้  แต่มุ่งโฟกัสไปที่เป้าหมายหลักเดียวคือรถยนต์  E – POWER ซึ่งบริษัทแม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าเหมาะสมกับตลาดผู้ใช้รถในประเทศไทย และทั้งหมดนี้น่าจะเป็นการปรับตัวที่ถูกต้องแล้วสำหรับ Nissan ประเทศไทยในเวลานี้ 

ภาพประกอบจาก NISSAN

ใครเห็นก็อยากซื้อ Toyota Corolla Cross

หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 20 ต้องเรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ใครเห็นก็อยากซื้อToyota Corolla Cross  ยอดจองในงานพุ่งเกิน 400 คัน และยังตั้งเป้าหมายไว้ว่ายอดขายน่าจะได้ 1,400 คันต่อเดือน ค่ายโตโยต้าค่อนข้างมั่นใจในรถรุ่นนี้มาก 

ทำไม ใครเห็นก็อยากซื้อ Toyota Corolla Cross

อย่างแรกเลยคือรูปทรงภายนอกสวย  ขนาดไม่ใหญ่โตเกินไป  มีความสปอร์ตแบบ SUV เป็นรถที่ผู้หญิงขับได้ ผู้ชายขับดี รถบางคันเราจะรู้สึกว่า “แมน” มาก บางคันก็ดูหวานจนออก “หญิง” แต่ Toyota Corolla Cross เหมาะสมกับทุกเพศ  ส่วนภายในก็นั่งสบาย สำหรับคนที่ชอบเทคโนโลยี บอกเลยสิ่งต่างๆ ที่ Toyota Corolla Cross จัดมาให้ช่างเพียบพร้อม อะไรที่สะดวกสบาย เรียกว่าจัดให้แบบครบ ๆ ว่าแล้วเรามาสรุปกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

ใครเห็นก็อยากซื้อ Toyota Corolla Cross

สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ตอบโจทย์โดนใจ

Toyota Corolla Cross จัดมาให้ 4  รุ่น 

1.รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท

2. รุ่น Hybrid Smart ราคา   1,019,000 บาท ,

3. Hybrid Premium ราคา ราคา 1,089,000 บาท 

4. Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร มีให้เลือก 2 รูปแบบ รุ่นเริ่มต้นคือเครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FBE ขนาด 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร 16 วาล์ว DOHC  140 แรงม้า  มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 15.4 กม.ต่อลิตร 

ส่วนรุ่นระบบ Hybrid  คงสงสัยกันว่าแบตเตอรี่จะใช้งานได้ดี ได้ทนทานจริงไหม สำหรับเทคโนโลยี Toyota Hybrid รุ่นนี้คือขณะขับไปก็จะชาร์จไฟไปด้วย แปลงพลังงานส่วนเกินให้เป็นพลังงานไฟฟ้าสะสม ทำให้มั่นใจได้ว่าเก็บไฟได้เต็มประสิทธิภาพ แถมยังมีระบบ Full Hybrid สามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ด้วย จุดที่น่าสนใจคือแบตเตอรี่ Hybrid รับประกันยาวนาน 10 ปี และรับประกันระบบ Hybrid 5 ปี เรียกว่าหมดความกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย

มีอะไรโดดเด่นบ้างในรถรุ่นนี้ 

เทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ

Toyota ได้เพิ่ม T connect มาให้ผู้ใช้รถ ยกตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น  

find my car สามารถเช็คตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ เคยใช่ไหม จอดรถแล้วจำชั้นไม่ได้ หรือจำได้แต่หาไม่เจอ ต่อแต่นี้ถ้าขับToyota Corolla Cross  จะหมดปัญหาเรื่องนี้กันเสียที

TheftTrack ตัวนี้จะช่วยติดตามรถหาย ช่วยตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม สามารถใช้ประสานความช่วยเหลือตลอด  24 ชั่วโมง

ออปชั่นความสะดวกสบายมากันครบ

ภายในรถรุ่นนี้บอกได้เลยว่านั่งสบายมาก ทั้งคนตัวสูงใหญ่นั่งแล้วไม่อึดอัด จอแสดงข้อมูลการขับขี่ดิจิตอลก็เห็นถนัดชัดเจนมาก

รุ่นนี้มีระบบเปิดประตูท้ายรถ ด้วยระบบกวาดเท้าด้านใต้รถด้วยนะ รวมไปถึงระบบต่างๆ เช่น ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ  ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งหมดนี้ทำให้ ใครเห็นก็อยากซื้อ Toyota Corolla Cross แต่สำคัญเหนืออื่นใด ต้องลองไปชมให้เห็นกับตาหรือขอทดลองขับที่โชว์รูม ที่สำคัญสุดๆ คือสำรวจเงินในกระเป๋าให้ดี ถ้าเงินพร้อม ใจพร้อม ก็เชิญถอยรถได้เลย

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.toyota.co.th