คลังเก็บหมวดหมู่: car news

ตลาดรถมือสองยอดพุ่งช่วงโควิด-19

ในท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 แต่ละประเทศล้วนได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ ยอดซื้อรถใหม่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย แต่อานิสงส์ของโควิด-19 กลับช่วยผลักดันให้ตลาดรถมือสองกลับฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จากรายงานข่าวของตลาดรถมือสองในหลายประเทศพบว่า ตลาดรถมือสองยอดพุ่งช่วงโควิด -19

ตลาดรถมือสองฟื้นคืนชีพเพราะโควิด-19

โควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทุกประเทศต้องใช้จ่ายมหาศาลที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง รายได้ประชากรลดน้อยลง และแน่นอนที่สุดเมื่อเงินในกระเป๋าลดน้อยลงก็จะส่งผลต่อการซื้อรถยนต์ใหม่ ใครที่ตั้งใจซื้อก็มักจะชะลอไปก่อน และหากฐานะการเงินไม่มั่นคงพอก็จะเปลี่ยนใจไปหารถมือสองซึ่งราคาถูกกว่า ตลาดรถยนต์มือสองในประเทศใหญ่ๆ ทั่วโลกต่างมียอดขายเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ตลาดรถยนต์มือสองกลับมาคึกคักฟื้นคืนชีพช่วงโควิด-19 อีกครั้ง

เมื่อใดที่เศรษฐกิจไม่ดี ตลาดรถยนต์มือสองจะดี

เป็นสิ่งที่คู่กันมาช้านาน ยิ่งช่วงโควิด-19 คนทำงานมีความจำเป็นต้องทำงานที่บ้าน ทำให้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนขายรถมากขึ้นเนื่องจากเริ่มมองเห็นว่ารถยนต์เป็นสิ่งไม่จำเป็นนัก และอาจเป็นภาระอีกต่างหาก รวมไปถึงปัญหารายได้ที่ลดน้อยลง การถูกเลิกจ้างงาน บ้างก็ถูกยึดรถเพราะไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ ทำให้มีการขายรถยนต์มือสองมากขึ้น

ส่วนคนตั้งใจจะซื้อรถใหม่ เริ่มไม่แน่ใจในภาวะเศรษฐกิจ ก็เริ่มหันมามองหารถมือสองดีๆ สักคัน ซึ่งราคาถูกกว่าถอยรถใหม่ป้ายแดงมาก และช่วงนี้มีให้เลือกมากขึ้น  ทั้งหมดนี้ทำให้ตลาดรถยนต์มือสองคึกคักขึ้นในช่วงโควิด-19 หลังจากซบเซามานาน

สำหรับประเทศไทยแม้ไม่มีใครยืนยันว่าตลาดรถมือสองดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่ก็เชื่อว่าคงเป็นไปตามกระแสตลาดรถยนต์มือสองโลกเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม

คิดให้ดีก่อนจัดไฟแนนซ์รถมือสอง

เลือกรถมือสองอย่างไรไม่ให้โดนหลอก

เที่ยวก็อยากเที่ยว ขับรถเที่ยวอย่างไรไม่ให้ติดโควิด-19

แม้เราจะเข้าสู่การระบาดโควิด-19 ระลอก 3 แล้ว คำแนะนำคือให้ระวังตัวตลอดเวลาโดยการอยู่บ้านให้มากที่สุด แต่จะให้อยู่ตลอดทั้งปีก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ คงต้องมีบ้างบางวันที่อยากไปเที่ยว ขอออกไปดูโลกภายนอกบ้างเหอะ กลัวก็กลัว เที่ยวก็อยากเที่ยว ขับรถเที่ยวอย่างไรไม่ให้ติดโควิด-19

เที่ยวก็อยากเที่ยว ขับรถเที่ยวอย่างไรไม่ให้ติดโควิด-19

9 วิธีเที่ยวไม่ให้ติดโควิด -19

1.ห้ามป่วย ห้ามไม่สบาย ก่อนไปเที่ยว แต่ก่อนอาจเป็นหวัด เจ็บคอ นิดหน่อยก็ยังไปเที่ยวกันได้สบายๆ  แต่ช่วงเวลานี้ร่างกายของเราต้องแข็งแรงให้มากที่สุด เพราะเชื้อโรคอยู่ทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะโควิด-19 พร้อมจะโจมตีร่างกายที่อ่อนแอเสมอ

2.หลีกเลี่ยงสถานที่ไปท่องเที่ยวที่มีการระบาดของโควิด-19 ระดับรุนแรง หรือจัดอยู่ในพื้นที่เสี่องสูง แม้จะอยากไปเที่ยวที่นั่นมากแค่ไหนก็ตาม แม้เราจะพร้อมระมัดระวังมากแค่ไหนก็ตาม แต่มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะติดโควิด-19 เช่นกัน ลองเลือกสถานที่อยากไปรองๆ ลงมาที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า

3.เดินทางด้วยรถส่วนตัวปลอดภัยกว่ารถสาธารณะ เที่ยวก็อยากเที่ยว ขับรถเที่ยวอย่างไรไม่ให้ติดโควิด-19 ขับรถตัวเองนี่แหละปลอดภัยสุดแล้ว

4.เดินทางไปเที่ยวกับครอบครัวและคนใกล้ชิดเท่านั้น และทุกคนไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ช่วงนี้เราอาจดูเหมือนไม่มีน้ำใจ แต่เราต้องเลือกความปลอดภัยไว้ก่อน

5. สวมหน้ากากปิดปากปิดจมูกไว้เสมอ ขอย้ำหน้ากากที่เลือกใช้ต้องเป็นหน้ากากชนิดที่ป้องกันเชื้อโรคได้ เลือกใช้หน้ากากที่แพทย์ใช้ อาจมีราคาแพงขึ้นอีกนิด แต่ป้องกันได้ดีกว่า

6.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ฝูงชนและคนที่พบเจอ ใครก็ตามที่ต้องเจอะเจอระหว่างการเดินทาง ต้องรักษาระยะห่างเข้าไว้ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะคิดว่าเรารังเกียจ เขาเองก็ต้องระวังเราเหมือนกัน ขอย้ำว่าแม้จะสวมหน้ากากแล้วแต่ก็ต้องอยู่ห่างผู้คน ระยะปลอดภัยคือ 2 เมตร หรือประมาณสองช่วงแขน ฟังดูเหมือนตลก แต่นี่คือระยะปลอดภัย ใกล้กว่านี้มีโอกาสติดโควิด-19

7.ทุกครั้งที่กลับขึ้นมานั่งในรถยนต์ตัวเอง อย่าลืมล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ อย่าลืมฉีดแอลกอฮอล์บริเวณที่จับรถด้วย

8.ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อย่าเผลอใช้มือขยี้ตา แคะจมูก และปาก  สามจุดนี้คือช่องทางที่เชื้อโควิด-19 จะเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย

9. กักตัวหลังจากกลับจากการท่องเที่ยว 10  วัน แม้จะไม่มีอาการใดๆ หลังจากการกลับมาจากการท่องเที่ยว แต่เพื่อความสบายใจของตัวเราเองและไม่ประมาท แนะนำให้กักตัวอยู่บ้านสัก 10 วัน ดูว่ามีอาการอื่นใดหรือไม่

เที่ยวก็อยากเที่ยว ขับรถเที่ยวอย่างไรไม่ให้ติดโควิด-19 หากทำตาม 9 ข้อนี้รับรองการท่องเที่ยวในช่วงโควิด -19 จะปลอดภัย ขอให้เที่ยวให้สนุก และกลับมาร่วมทุกข์ด้วยกันต่อไป

ขอบคุณภาพปก / ภาพประกอบ / จาก Freepik

ลองเช็คดูสถานีจอดแล้วจร 16 แห่ง มีที่ไหนบ้าง?

ถึงจะมีรถยนต์ก็ใช่ว่าเราจะอยากขับอย่างเดียว เพราะถนนบางสายกว่าจะฝ่าฟันไปถึงที่หมายก็เหนื่อยแสนสาหัส วิธีประหยัดพลังงานชีวิตง่ายๆ ก็คือใช้บริการสถานีจอดแล้วจร ต่อรถฟ้า MRT ไปให้ถึงที่หมาย ชีวิตก็จะง่ายขึ้นทันตาเห็น แต่ก่อนสถานีจอดแล้วจรมีน้อยและรถเต็มตลอด แต่ปัจจุบันสถานีจอดแล้วจรขยายไปทั่วเมืองถึง 16 แห่ง ลองเช็คดูสถานีจอดแล้วจร 16 แห่งมีที่ไหนบ้าง? เผื่อวันใดจะได้ใช้บริการบ้าง

ลองเช็คดูสุถานีจอดแล้วจร 16 แห่ง มีที่ไหนบ้าง?

อัพเดทล่าสุดสถานีจอดแล้วจร 16 แห่ง

สถานีจอดแล้วจร จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ ที่จอดรถในตัวอาคาร และลานจอดรถ

ที่จอดรถในตัวอาคาร 7 สถานี ได้แก่

  1. สถานีลาดพร้าว ถือเป็นสถานียอดฮิตที่คนขับรถรู้จักกันดี รองรับรถยนต์ได้ 2100 คัน แต่….ชั้นฮิตๆ จะเต็มเร็วมาก แต่ก็ยังพอมีที่ว่างเสมอสำหรับคนมาช่วงบ่าย
  2. สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ รองรับได้ 205 คัน
  3. สถานีหลักสอง อาคารจอดรถ 1 รองรับ 650 คัน อาคารจอด2 รองรับ 350 คัน
  4. สถานีคลองบางไผ่ รองรับ 1986 คัน
  5. สถานีสามแยกบางใหญ่ รองรับ 1296 คัน
  6. สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ รองรับ 1076 คัน
  7. สถานีแยกนนทบุรี1 รองรับ 565 คัน

สถานีจอดแล้วจรแบบลานจอดรถ 9 สถานี

สถานีลานจอดรถจะเป็นลานโล่ง นั่นหมายถึงรถยนต์ของเราจะต้องจอดไว้กลางแจ้ง ได้แก่

8.สถานีสวนจตุจักร รองรับ 1250 คัน (จอดฟรี)

9.สถานีรัชดาภิเษก รองรับ 75 คัน

10.สถานีห้วยขวาง รองรับ 73 คัน

11.สถานีพระราม 9 รองรับ 50 คัน

12.สถานีเพชรบุรี รองรับ 54 คัน

13.สถานีสามย่าน รองรับ 31 คัน

14.สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ลานจอดรถ1 รองรับ 30 คัน ลานจอดรถ2 รองรับ 106 คัน (รองรับเฉพาะผู้จ่ายรายเดือน)

15.สถานีศูนย์การประชุมฯ ลานจอดรถ1รองรับ 42 คัน (รองรับเฉพาะผู้จ่ายรายเดือน) ลานจอดรถ2 รองรับ 79 คัน

16.สถานีสุขุมวิท รองรับ 29 คัน (รองรับเฉพาะผู้จ่ายรายเดือน)

ถ้าจำเป็นต้องเดินทางไปเส้นทางที่รถติดหนัก และเหนื่อยหน่ายกับการขับรถ ลองเช็คดูสถานีจอดแล้วจร 16 แห่งมีที่ไหนบ้าง?

นำรถเข้าจอดอาคารจอดแล้วจรเวลาไหนได้บ้าง?

วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-20.00 น.

วันเสาร์ เวลา 08.00-17.00 น.

ข้อควรระวังการใช้บริการอาคารจอดแล้วจร

1.นำรถมาจอดได้ตั้งแต่เวลา 05.00-01.00 น. หากจอดรถเกินเวลาที่กำหนด ต้องเสียค่าปรับรวมค่าบริการจอดรถ สำหรับผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ในอัตราวันละ 1,000 บาท และ สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ในอัตราวันละ 300 บาท

2.ทำบัตรจอดรถหาย ต้องเสียค่าปรับบัตรหาย 300 บาท พร้อมทั้งต้องนำหลักฐานที่ยืนยันว่าท่านเป็นเจ้าของรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ก่อนจึงจะนำรถออกไปได้

3.อย่ามักง่ายขี้เกียจวนหาที่จอด โดยจอดขวางรถคันอื่น หรือจอดในที่ห้ามจอด หากฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จะล็อคล้อรถและท่านต้องเสียค่าปรับครั้งละ 1,000 บาท

อย่าเที่ยวเพลินจนลืมเวลา เพราะอาคารจอดแล้วจรไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ออกจากอาคารและลานจอดรถของ รฟม. หลังเวลา 01.00 น. โดยท่านสามารถนำรถยนต์ออก และชำระค่าปรับค้างคืน ในเวลาเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.

อัตราค่าบริการอาคารจอดแล้วจร สถานีรถไฟฟ้า MRT

ทุกอาคารจอดแล้วจร

สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT อัตราค่าบริการรายชั่วโมงคือ 15 บาทต่อ 2 ชั่วโมง

อย่าลืมปั๊มบัตรจอดรถที่เครื่องอัตโนมัติสถานีที่ท่านเดินทางไปหรือสถานีใดก็ได้ที่ไม่ใช่สถานีที่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทาง  

สำหรับผู้มาจอดรถแต่ไม่ใช้บริการ MRT ค่าบริการชั่วโมงละ 50 บาท

4 อาคารจอดแล้วจรน้องใหม่ค่าจอดถูกกว่าที่อื่น

สถานีคลองบางไผ่ สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ สถานีแยกนนทบุรี 1 ทั้ง 4 สถานีนี้ค่าจอด 10 บาทต่อ 2 ชั่วโมงสำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้า MRT ส่วนผู้ที่มาจอดโดยไม่ใช้บริการจะเสียค่าจอด 20 บาทต่อ 1 ชั่วโมง

จะเห็นได้ว่า 16 อาคารจอดแล้วจร ค่อนข้างครอบคลุมเส้นทางการเดินทางทั่วกรุงเทพฯ วันไหนไม่อยากขับรถไกลสามารถวางแผนการเดินทางและใช้บริการอาคารจอดแล้วจรได้ นอกจากจะใช้เส้นทางรถไฟฟ้า MRT แล้ว เรายังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปใช้รถไฟฟ้า BTS ได้อีกด้วย

คำแนะนำคือให้คำนวณค่าโดยสารให้ดีๆ  เพราะค่าเดินทางรถไฟฟ้า “ไม่ถูก” เลย ไปไหนไกลๆ รวมๆ แล้วอาจจ่ายพอๆ กับค่าแท็กซี่ แต่ข้อดีคือประหยัดเวลาเดินทาง คำแนะนำสุดท้ายคือหากวางแผนการเดินทางได้ พยายามหลีกเลี่ยงเดินทางไปและกลับเวลาทำงานและเลิกงานของมนุษย์เงินเดือน ไม่เช่นนั้นคุณจะเหนื่อยกับการเดินทางเพิ่มขึ้น

ลองเช็คดูสถานีจอดแล้วจร 16 แห่งมีที่ไหนบ้าง? อาจมีบางแห่งที่อาจช่วยเบาแรงคุณในการขับรถฝ่าการจราจรรถติดไปได้บ้าง