มาฟังคำเฉลย.. ขับรถก็ระวังแล้ว แต่ทำไมรถยังมีรอยขีดข่วนอยู่เสมอ

เคยนึกสงสัยกันใช่ไหม? ทำไมรถเราถึงมีรอยขีดข่วนอยู่เรื่อยๆ  รอยพวกนี้มาจากไหนกันแน่ มาฟังคำเฉลย.. ขับรถก็ระวังแล้ว แต่ทำไมรถยังมีรอยขีดข่วนอยู่เสมอ

รอยขีดข่วนหรือรอยขนแมวมาจากไหน?

บางคนวันๆ แทบไม่ได้ใช้รถ แต่ก็เห็นรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ เป็นรอยใหม่เกิดขึ้นตรงโน้นตรงนี้เสมอ ถ้ารถเก่าแล้วเราก็ไม่เครียดเท่าไร แต่ถ้ารถยังใหม่ รอยขนแมวพวกนี้สร้างความรำคาญใจให้เจ้าของรถมากมายเลยทีเดียว เชื่อว่าทุกคนเคยสงสัยกันว่ารอยพวกนี้เกิดขึ้นตอนไหน และที่สำคัญคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าไปโดนอะไรจากไหน? เรามาลองรวบรวมข้อมูลกันว่ารอยขีดข่วนบนรถที่เกิดขึ้นมาจากไหนกัน

1.มาจากการล้างรถ

คุณอาจเถียงว่าไม่จริง! คุณล้างรถเองกับมือระวังมาตลอดเลย ใช้น้ำยาก็อย่างดี เช็ดถูแสนจะเบามือ แต่ความจริงที่เราอาจไม่รู้ก็คือผ้าเช็ดรถนั้นคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยขนแมวและรอยขีดข่วนบนรถได้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าอะไรก็ตามที มีโอกาสสร้างรอยขีดข่วนได้ อาจไม่ใช่รอยขีดข่วนใหญ่โต แต่จะสะสมรอยเล็กๆ น้อยๆ ไว้ พอรถอายุมากขึ้น ร่องรอยต่างๆ จะปรากฎชัดเจนขึ้น 

ส่วนการล้างรถที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนคือการไม่สัมผัสพื้นผิวรถยนต์ ได้แก่การใช้ระบบฉีดน้ำล้างรถนั่นเอง

2. มาจากถนนที่เราขับผ่านไป

บนถนนพื้นเรียบสะอาดสะอ้านไม่ทำให้รถมีรอยขีดข่วน แต่ถ้าคุณต้องขับผ่านถนนลูกรัง หรือทางที่มีกรวดทราย บรรดากรวดเม็ดเล็กๆ สามารถดีดใส่รถเป็นรอยเล็กๆ น้อยๆ ได้เสมอ โดยคุณอาจไม่รู้ตัวเพราะมันเบา แต่กลับถึงบ้านอาจเห็นร่องรอยและไม่รู้ว่ามาจากไหน ให้ลองถามตัวเองว่าขับผ่านไปบนถนนมีเม็ดกรวดเม็ดทรายบ้างไหม

3. มาจากสถานที่จอดรถ

สถานที่จอดรถมีทั้งรถใหญ่ รถเล็ก รถที่คนขับระวังไม่มากพอ ความโชคร้ายคือไปเจอเจ้าของรถที่ไม่สนใจรถคันอื่น เปิดประตูกว้างสุด กระแทกรถคันอื่นโดยไม่สนใจใยดี บางทีก็เป็นรอย บางทีก็เป็นรอยบุบ คำแนะนำคือพยายามหาที่จอดรถด้านหนึ่งเป็นเสา อย่างน้อยปลอดภัยไว้ข้างหนึ่ง และอย่าลืมการเว้นที่เผื่อรถข้างๆ เปิดประตูเพื่อขึ้นรถ คิดเผื่อไว้ว่าถ้าเปิดประตู เขาจะได้รับความสะดวกไหม อย่าชิดเส้นใดเส้นหนึ่งมากเกินไป และที่สำคัญถ้าจอดรถซ้อนคัน อย่าดึงเบรกมือไว้เป็นอันขาด แต่ก็นั่นแหละ..คนเรามีลืมกันได้  แต่ถ้าเราลืม พอกลับมาที่รถ..เราจะไม่ลืมไปตลอดชีวิตเลย ถ้าไปเจอเจ้าของรถคันที่ขี้โมโหและไม่ยอมให้อภัย

4. มาจากแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์บนท้องถนน

มาฟังคำเฉลย.. ขับรถก็ระวังแล้ว แต่ทำไมรถยังมีรอยขีดข่วนอยู่เสมอ มันก็มาจากช่วงที่เราขับไปตามท้องถนนนี่แหละ แม้รถจะติดอยู่ แต่มอเตอร์ไซค์จะไม่เคยติด จะลัดเลาะไปตามซอกเล็กซอกน้อย ถ้าคุณนั่งในรถแล้วรู้สึกถึงแรงกระเพื่อมไหวเล็กน้อยของรถ และมีมอเตอร์ไซค์ผ่านไป ให้พึงคิดไว้ว่าได้มีบางสิ่งมากระทบพื้นผิวรถยนต์ของคุณแล้วแม้จะเป็นการสัมผัสแผ่วเบา และนั่นอาจหมายถึงรอยขีดข่วนที่จะเกิดขึ้น สะสมแต้มบุญไปเรื่อยๆ พอนานวัน ร่องรอยเหล่านี้จะปรากฎให้เห็นไปทั่วรถ

5.มาจากการขนของขึ้นรถของตัวเอง

การขนของมากเกินไปหรือการขนของหนักขึ้นรถ เรียกว่ามือข้างเดียวเปิดประตูรถแทบไม่ไหว ดังนั้นระหว่างเปิดประตูเอาของใส่เข้าไปท้ายรถหรือประตูข้างคนขับ หรือประตูข้างหลังรถ ช่วงที่คุณดันข้าวของเข้ารถ หรือใช้รถเป็นที่พิงของไว้ก่อนเปิดประตู แม้จะเพียงชั่วครู่ แต่สิ่งของเหล่านั้นอาจมีการสัมผัสพื้นผิวรถยนต์บ้างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ทำให้เกิดร่องรอยเล็กๆ น้อยๆ ได้เช่นกัน

6.มาจากศัตรูที่ไม่รู้เป็นใคร

การโดนกรีดรถถือเป็นคราวเคราะห์จริงๆ เพราะป้องกันไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน บุคคลต้องสงสัยคือศัตรูหรือคนที่ไม่พอใจคุณ และที่แย่สุดก็คือคนขี้อิจฉา คนโรคจิต ที่หมั่นไส้รถคุณ รถที่สะอาดสีสันแวววาว ใหม่ใสกิ๊ก มักจะสะเทือนใจคนขี้อิจฉาบางคนได้ หนทางป้องกันคนพวกนี้ยังไม่มี วิธีการเดียวคืออย่าไปจอดรถในที่ลับตาคนมาก จอดใกล้ๆ ยามไว้แหละดี

นี่คือคำเฉลย.. ขับรถก็ระวังแล้ว แต่ทำไมรถยังมีรอยขีดข่วนอยู่เสมอ ของมันเกิดกันได้ รอยขีดข่วนพวกนี้ไม่มีผลต่อการขับขี่ แค่มีผลทางใจ วิธีแก้ไขคือหาน้ำยาลบรอยขีดข่วนมาเช็ดถู พอช่วยได้ถ้ารอยไม่ได้ลึกกินถึงเนื้อสี และวิธีง่ายที่สุดคือ อย่าไปมองหารอยขีดข่วน  เพราะถ้าไม่มอง เราก็ไม่เห็น ถ้าเราไม่เห็นก็เท่ากับรถเราไม่มีรอย..

Please follow and like us:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *