7 วิธีพาน้องแมวน้องหมานั่งรถเที่ยวไปด้วยกัน

วันหยุดยาวๆ แบบนี้อยากไปเที่ยวแบบยกบ้านโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังกันใช่ไหม? นั่นหมายถึงเราต้องพาน้องแมวน้องหมาขึ้นรถไปเที่ยวด้วยกัน แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ตื่นเต้นตรงไม่รู้ว่าน้องสี่ขาจะมีความสุขและนั่งรถร่วมกับเราไปจนถึงจุดหมายปลายทางได้ไหม? วันนี้ carwidee มี 7 วิธีพาน้องแมวน้องหมานั่งรถเที่ยวไปด้วยกัน

7 วิธีพาน้องแมวน้องหมานั่งรถเที่ยว

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนพาน้องขึ้นรถ

สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อนจะตัดสินใจพาน้องแมวน้องหมานั่งรถไปด้วยกันคือ แมวและหมาของเราชอบนั่งรถไหม แมวหมาบางตัวเกลียดการนั่งรถเป็นชีวิตจิตใจ บางตัวกลัวการขึ้นรถมาก เคยมีแมวบางตัวนั่งรถแล้วช็อคจนเสียชีวิต ดังนั้นต้องสังเกตแมวหมาเราให้ดี ถ้านั่งรถแล้วมีอาการตื่นตกใจ น้ำลายยืด ร้องไม่หยุด มีทีท่าไม่ดี ก็ไม่ควรฝืนพาขึ้นรถไปเที่ยว เพราะอาจจะไม่ใช่การทำให้แมวหมามีความสุข แต่เป็นการสร้างความทุกข์ทรมานใจให้พวกมันเป็นอย่างมาก แต่ถ้าแมวหมายื่นหน้ามองดูวิวนอกกระจกรถอย่างเพลิดเพลิน ทำหน้ามีความสุขกับการขึ้นรถ สีหน้าแจ่มใส ก็แสดงว่าสอบผ่านอันดับแรก

มาถึง 7 วิธีพาน้องแมวน้องหมานั่งรถเที่ยวไปด้วยกัน

1.ใส่กรงให้เรียบร้อย

วิธีนี้ปลอดภัยมากเพราะช่วยจำกัดพื้นที่ของน้องแมวน้องหมา นอกจากช่วยให้แมวหมาปลอดภัยแล้ว ยังปลอดภัยสำหรับคนขับรถอีกด้วย ลองคิดดูขณะขับรถถ้าแมวหมาไต่ตามตัว หรือเดินไปทั่วรถ จะทำให้คนขับรถเสียสมาธิได้ และบางทีคนขับอาจเผลอยื่นมือมาเล่นกับแมวหมา ลืมดูทางข้างหน้าอีกด้วย ที่สำคัญหากเกิดอุบัติเหตุ ต้องเบรกกะทันหัน แมวหมาอาจได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะแรงกระแทกจากถุงลมนิรภัยอาจทำให้น้องแมวน้องหมาเสียชีวิตได้ทันที การใส่กรงไว้เบาะหลัง คาดเซฟตี้เบลท์หรือหาที่รัดกรงกับพื้นที่ให้เรียบร้อยจึงถือเป็นวิธีปลอดภัยที่สุด

2.ฝึกเดินทางระยะใกล้ก่อน

หากแมวหมาสามารถขึ้นรถเพื่อเดินทางได้ และมีกรงที่เหมาะสมแล้ว แต่อย่าเพิ่งดีใจจนรีบพาแมวหมาขึ้นรถมุ่งหน้าเดินทางไกล เพราะแมวหมาบางตัวเดินทางได้ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะชอบเดินทางที่ไกลเกินไป วิธีการคือลองฝึกแมวหมาให้นั่งรถเดินทางระยะใกล้ๆ ก่อน แล้วสังเกตพฤติกรรมว่ามีอาการเครียดหรือไม่ การนั่งรถนานเกินไป แมวหมาบางตัวจะมีอาการเครียดเพราะอยู่ในพื้นที่แคบๆ รู้สึกแปลกที่แปลกทาง วิธีการก็คือควรฝึกพาน้องเดินทางระยใกล้ก่อนแล้วค่อยขยายระยะทางให้ไกลขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อฝึกความเคยชิน หากน้องแมวน้องหมาไม่มีอาการเครียด แสดงว่าสามารถเดินทางไกลได้

3.ตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง

หากน้องแมวน้องหมาพร้อมเดินทาง เพื่อความไม่ประมาทก่อนเดินทาง 7 วัน ควรนำไปตรวจสุขภาพว่าน้องแข็งแรงดีไม่เจ็บไม่ไข้ หากแมวหมาสุขภาพแข็งแรงจะทำให้เดินทางได้ราบรื่นมีความสุข แต่หากแมวหมามีอาการป่วยก็ไม่ควรพาไปด้วย เพราะระหว่างทางแมวหมาอาจมีอาการหนักขึ้นได้ และการไปเที่ยวขณะแมวหมาป่วย ทั้งเราทั้งแมวหมาก็จะไม่มีความสุขแน่นอน

4.ให้อาหารน้อยๆ ก่อนเดินทาง

ปกติถ้าอยู่ที่บ้านเราจะให้น้องแมวน้องหมากินอาหารจนอิ่ม แต่ถ้าหากเราต้องการพาน้องนั่งรถระยะทางไกล คำแนะนำคือควรให้อาหารให้น้อยลงกว่าเดิม ก่อนออกเดินทาง 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ย่อยได้พอดี การมีอาหารเต็มท้องขณะนั่งรถไกลๆ อาจทำให้แมวหมาอาเจียนได้ เราควรใช้วิธีให้อาหารทีละน้อยเรียกว่ามื้อเบาๆ  แต่ให้บ่อยครั้ง  อาจให้ทุกครั้งที่หยุดพักรถก็ได้

5. เตรียมชุดโปรดและของเล่นสุดรัก

น้องแมวน้องหมาของเราหากมีชุดที่ชอบใส่ให้เลือกชุดนั้นเพื่อการเดินทาง จำไว้ให้มั่นเลือกชุดที่แมวหมาชอบ ไม่ใช่ชุดที่เราชอบ และอย่าลืมที่นอน หมอนเน่า ของเล่นสุดรัก ให้ขนไปด้วย การนำสิ่งของที่เขารักไปด้วยช่วยสร้างบรรยากาศกลิ่นที่เขาคุ้นเคยและรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเหมือนอยู่บ้าน

6.เตรียมอุปกรณ์เสริมความสะดวกสบายของน้องแมวน้องหมาไปให้พร้อม

เบาะที่นั่งสบายๆ อาหารสุดโปรด แผ่นกันเปื้อน จานอาหาร ถ้วยน้ำ กระบะทราย กรง ตะกร้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้น้องแมวน้องหมามีความสุขมากที่สุด ขอให้จัดเต็มไปได้เลย

7.ระหว่างเดินทางอย่าปล่อยให้แมวหมายื่นศีรษะออกไปนอกกระจก

เราอาจดูหนังเวลาเขาพาแมวหมานั่งรถ มักจะให้แมวหมายื่นหน้าออกมาโต้ลม ดูแล้วน่ารักมากมาย แต่..อย่าได้หาทำระหว่างเดินทางไกล เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุมีมาก เราคงเคยได้ยินข่าวหมาแมวไต่ปีนจนร่วงจากรถมานักต่อนักแล้ว ที่สำคัญอาจเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนทำให้แมวหมาของเราเสียชีวิตได้ การเดินทางแสนสุขอาจกลายเป็นการเดินทางแสนเศร้า

ทั้งหมดนี้คือ 7 วิธีพาน้องแมวน้องหมานั่งรถเที่ยวไปด้วยกัน วันหยุดยาวๆ แบบนี้จะดีแค่ไหนที่ได้เดินทางไปทั้งบ้านจริงๆ โดยไม่ทิ้งน้องแมวน้องหมาเหงาๆ ไว้ที่บ้าน แต่ขอย้ำว่า น้องแมวน้องหมาอาจไม่ชอบการเดินทางและอาจมีความสุขที่ได้อยู่บ้านมากกว่านั่งรถไปไกลๆ ต้องลองพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจพาไปเที่ยวแล้วน้องไม่มีความสุข แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าน้องแมวน้องหมาเป็นขาลุยชอบเที่ยวก็จัดไปได้เลย

ขอบคุณภาพปก: กันทิมา ว่องเวียงจันทร์ / ขอบคุณภาพประกอบจาก freepik

Please follow and like us:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *