โควิดพ่นพิษธุรกิจประกันภัย หลังต้องจ่ายเงินมหาศาลให้กับผู้ประกันโควิด ทำให้บางบริษัทประกันภัยเริ่มขาดสภาพคล่อง ส่งผลกระทบไปถึงผู้ประกันภัยรถยนต์ อู่ซ่อมรถเริ่มไม่รับซ่อม หวั่นไม่ได้เงินจากบริษัทประกันภัย

ไม่มีใครคาดคิดว่าบริษัทประกันภัยที่ต่างแข่งขันกันแย่งลูกค้าประกันโควิดในช่วงระบาดยุคแรกๆ  โดยเฉพาะแคมเปญสุดฮิต“เจอ จ่าย จบ” จะพ่นพิษให้บริษัทประกันภัยอย่างมาก ถึงปีนี้หลายบริษัทเริ่มรับมือจ่ายเงินให้กับลูกค้าที่ติดโควิดไม่ไหวแล้ว บางบริษัทถึงกับต้องขอปิดกิจการตัวเอง ส่วนบริษัทอื่นๆ ก็ขาดสภาพคล่องไปตามๆ กัน ทำให้การเคลมประกันเริ่มจ่ายเงินล่าช้าลงกว่าเดิม จากประกันภัยโควิดเริ่มส่งผลไปถึงผู้ทำประกันภัยรถยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผู้ใช้รถสุดเซ็ง หาอู่รับซ่อมรถยากขึ้น

โควิดพ่นพิษธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ผู้ประกันภัยรถหาอู่ซ่อมยากขึ้น ผู้ทำประกันภัยรถยนต์ไม่ว่าจะชั้น 1 หรือชั้น 2 ชั้น 3 เริ่มได้รับผลกระทบจากการขาดสภาพคล่องของบริษัทประกันภัยแล้ว เนื่องจากอู่ซ่อมรถยนต์เริ่มเลือกรับเฉพาะบางบริษัทเท่านั้น และหลีกเลี่ยงที่จะรับซ่อมรถยนต์ให้กับบางบริษัทประกันภัยที่จ่ายเงินล่าช้า ทำให้อู่ซ่อมรถยนต์ต้องแบกรับภาระสำรองจ่ายไปก่อน จนทำให้อู่ซ่อมรถเริ่มขาดสภาพคล่องตามไปด้วย

ปกติแล้วอู่ซ่อมรถยนต์จะรับซ่อมรถยนต์และเรียกเก็บเงินจากบริษัทประกันภัย ระยะหลังบางบริษัทเริ่มจ่ายเงินช้า ซึ่งธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ต่างก็มีค่าใช้จ่ายรายเดือน ทั้งค่าลูกจ้าง ค่าสถานที่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หากบริษัทประกันภัยจ่ายเงินช้ามาก นานเกินกว่า 3-6 เดือน หรือค้างจ่ายจำนวนมาก อู่ซ่อมรถยนต์เองก็ไม่สามารถแบกรับภาระตรงนี้ได้ อาจถึงขั้นต้องปิดกิจการตามธุรกิจประกันภัยเลยก็ว่าได้ ดังนั้นช่วงนี้อู่ซ่อมรถยนต์จึงเลือกรับซ่อมรถยนต์ให้กับบางบริษัทเท่านั้น ส่งผลให้ผู้ทำประกันรถยนต์กับบางบริษัทหาอู่ซ่อมรถยนต์ช่วงนี้ยากขึ้น

คำแนะนำ ให้โทรถามอู่ซ่อมรถยนต์ที่คุณชอบนั้นว่า รับซ่อมให้กับบริษัทประกันภัยไหนบ้าง เชื่อว่าเจ้าของอู่ยินดีกระซิบบอกว่าบริษัทประกันไหนดี ไม่ดี บริษัทไหนมีปัญหาการขาดสภาพคล่อง  ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเลือก หรือต่อประกันภัยรถยนต์ของคุณในปีถัดไป

จ่ายเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไปแล้ว เราก็ต้องการบริการที่ดีกลับคืนมาให้สมกับราคาที่จ่ายไป และสิ่งที่ดีที่สุดช่วงนี้คือพยายามขับรถอย่างระมัดระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน แม้รถยนต์จะมีประกันชั้น 1 ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหาอู่ซ่อมรถยนต์ง่ายๆ เหมือนก่อน และถึงหาได้ก็อาจต้องรอการซ่อมนานกว่าปกติ

ขอบคุณภาพปก unsplash